TRUE ร่วง 6.09% หวั่นค่าเสียหายสูง 1.4-1.5 หมื่นล. กรณีลดค่าทางไกลในปท.

HoonSmart.com>>หุ้น TRUE ร่วง 6.09% รับ Sentiment ลบจากข้อพิพาทการลดค่าบริการทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 หวั่นค่าเสียหายสูงราว 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท หากจบข้อพิพาทนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่พื้นฐานยังแนะนำ”ซื้อ”ด้วยราคาเป้าหมาย 15 บาท เล็งกำไร Turnaround ปี 68 และยังมีประเด็นลุ้นจากจะเปิดประมูลคลื่น 2100 และ 2300 MHz ในปี 68

เมื่อเวลา 11.13 น.หุ้น TRUE ร่วง 6.09% มาที่ 10.80 บาท ลดลง 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,300.96 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 11.20 บาท ขึ้นสูงสุด 11.30 บาท และต่ำสุด 10.70 บาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ปรับตัวลงค่อนข้างมากเช้านี้ คาดว่าจะเป็น Sentiment ลบจาก ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดให้ยกอุทธรณ์ของบริษัทฯ ในคดีที่บริษัท ทีโอที (ปัจจุบัน คือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT)) ยื่นคำเสนอข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 2543 ถึงเดือนมิ.ย. 2548 อันเนื่องมาจากบริษัทฯ ลดค่าบริการทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234

ทั้งนี้ หากคิดค่าเสียหายนับตั้งแต่มีคดีความในปี 2005 จนถึงปี 2567 รวมดอกเบี้ยแล้วก็จะมีเกือบ 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าคดียังไปต่อก็ต้องสู้กันต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะจบได้ใน 3 ปีข้างหน้า เมื่อถึงตอนนั้นค่าเสียที่ TRUE จะต้องจ่ายจะมีประมาณ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท ถ้าศาลฯสั่งให้ TRUE จ่าย ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการสอบถามไปยัง TRUE ได้รับคำตอบว่า ทาง TRUE ได้มีการตั้งสำรองในงบแล้ว จึงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร อย่างไรก็ดี TRUE จบการเจรจานอกศาลก็ได้ ทำให้จ่ายน้อยลง หรือ TRUE อาจชนะคดีก็ได้ ดังนั้นต้องรอดูต่อไป

ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของ TRUE ยังคงแนะนำ”ซื้อ”และจัดให้เป็นหุ้น Top pick ด้วยราคาเป้าหมาย 15 บาท เนื่องจากปี 2568 คาดว่าจะเป็นไตรมาส 1 จะมีการประมูลคลื่น 2100 และ 2300 MHz ซึ่ง Sentiment จะมาตอนประมูลคลื่น แต่กำไรจะไปเห็นในปี 2569 โดยคลื่น 850 และ 2300 MHz ของ TRUE หมดอายุในปี 2568 ซึ่งคาดว่าคลื่น 850 ทาง TRUE อาจไม่ต้องการต่ออายุแล้ว แต่ 2300 อาจจะยังต้องการอยู่ ถ้าคงคลื่น 2300 ไว้เพียงคลื่นเดียวในปี 2569 กำไรปกติของ TRUE คาดว่าจะมี 13,600 ล้านบาท แต่ถ้าได้ต่ออายุทั้ง 850 และ 2300 ก็จะเห็นกำไร 11,600 ล้านบาท พร้อมกันนี้ TRUE มีลุ้น Turnaround ในปี 2568 โดยคาดกำไรปกติไว้ที่ 10,500 ล้านบาท