ส่องกองทุน ESG ลงทุนหุ้นไทย 2,500 ลบ. ชูผลตอบแทน 3 ปีสูงสุด 9.70% ต่อปี

HoonSmart.com>> “มอร์นิ่งสตาร์” เผยกองทุน ESG ลงทุนหุ้นไทย เม็ดเงินลงทุนยังน้อย 2.5 พันล้านบาท จากจำนวน 22 กองทุน 6 บลจ. ส่วนใหญ่ลงทุนต่างประเทศกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิด 5 อันดับกองทุน ESG หุ้นไทย ผลตอบแทนสูงสุดรอบ 3 ปี พบกองทุนที่สร้างผลตอบแทนอันดับหนึ่งทำได้ 9.70% ต่อปี คาดภาครัฐหนุนตั้งกองทุน Thai ESG Fund ดึงดูดบลจ.ออกกองทุน ESG มากขึ้น

หลังจากกระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้ข้อสรุปอนุมัติกองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ ชื่อ “กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน” หรือ Thailand ESG Fund (TESG) เพื่อลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG กำหนดระยะเวลาการลงทุนต้องครบ 8 ปี (10 ปีปฏิทิน) วงเงินลงทุนของนักลงทุนสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท/ราย ซึ่งเป็นวงเงินเพิ่มเติมจากการลงทนในกองทุนลดหย่อนภาษีอื่นๆ ที่ภาครัฐให้สิทธิภายใต้วงเงินรวมไม่เกิน 500,000 บาท/ราย ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายภายในปีนี้

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย) มองกรณีดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุนที่ทางภาครัฐมีแนวคิดที่จะจัดตั้งกองทุน Thai ESG Fund เพื่อช่วยพยุงตลาด รวมทั้งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยมีลักษณะคล้ายกองทุน LTF แต่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ ESG

อยางไรก็ตามปัจจุบันกองทุน ESG หรือ กองทุนยั่งยืนในประเทศไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 4.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในหุ้นไทย จำนวน 22 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 2.5 พันล้านบาท และลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 91 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 4.3 หมื่นล้านบาท เรียกว่า กว่า 94% ของกองทุน ESG ที่ขายในไทยส่วนใหญ่ลงทุนในต่างประเทศ โดยมีเงินไหลออกสุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 1.8 พันล้านบาท ปัจจุบันมีเพียง 6 บลจ. เท่านั้นที่มีการออกกองทุน ESG ที่ลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งหลังจากนี้เราคงเห็นทุก บลจ.ออกกองทุน ESG กันมากขึ้น

สำหรับ 5 อันดับกองทุน ESG ที่ลงทุนในไทยและมีผลตอบแทนดีที่สุดในรอบ 3 ปี ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ESG เพื่อสังคม ชนิดจ่ายเงินปันผล (TISESG-D) บลจ.ทิสโก้ ผลตอบแทน 9.70% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทน YTD ณ 31 ต.ค.256 -14.46% และมี Morningstar Sustainability Rating ที่ 5 ดาว

อันดับสอง กองทุนเปิดเคเคพี SET50 ESG ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (KKP SET50 ESG-SSFX) บลจ.เกียรตินาคินภัทร ผลตอบแทน 8.30% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทน YTD -11.62%

อันดับสาม กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทย Well-being ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TISCOWB-A) บลจ.ทิสโก้ ผลตอบแทน 7.22% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทน YTD -17.21%

อันดับสี่ กองทุนรวมคนไทยใจดี (BKIND) บลจ.บัวหลวง ผลตอบแทน 6.7.5% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทน YTD -11.97%

อันดับห้า กองทุนเปิดเค หุ้นธรรมาภิบาลไทยเพื่อการเลี้ยงชีพ (K THAI CG RMF) บลจ.กสิกรไทย ผลตอบแทน 6.00% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทน YTD -14.60%

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนกองทุนยั่งยืน หรือ กองทุน ESG ทางมอร์นิ่งสตาร์มีตัวช่วยที่เรียกว่า Globe Rating โดยมีสัญลักษณ์เป็นรูป “โลก” ซึ่งจะเป็นการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืน โดยหากกองทุนลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงด้าน ESG สูง เมื่อเทียบกับ Peer ในกลุ่มเดียวกัน ก็อาจจะทำให้กองทุนได้รับเรตติ้ง Globe Rating ที่ต่ำไปด้วย โดย Globe Rating มีระดับตั้งแต่ 1-5 (5 Globe คือ มีความเสี่ยงด้าน ESG ต่ำสุด) ซึ่งเป็นการนำข้อมูลคะแนนความเสี่ยง ESG ของแต่ละบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกที่ประเมินโดยบริษัท Sustainalytics มาใช้ ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนในไทยได้รับการประเมินรวมกว่า 170 บริษัท ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม

ด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนทั่วโลก ยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิทั้งไตรมาสเพียง 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ความผันผวนในตลาดโลก ก็ทำให้กองทุนเพื่อความยั่งยืนทั่วโลกมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 4.2% อยู่ที่ระดับ 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน โดยกองทุนยั่งยืนของยุโรป ยังมีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยังเกิดการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ประเด็นเรื่อง Greenwashing และความเข้มงวดด้านกฎระเบียบ ทำให้มีกองทุนที่ใส่คำว่า ESG ลงในชื่อกองทุนน้อยลง ในขณะเดียวกัน กลับมีกองทุนจำนวนมากขึ้น ที่กำลังลบคำที่เกี่ยวข้องกับ ESG ออกจากชื่อกองทุนโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา

อ่านข่าว
คลังไฟเขียวตั้ง ‘กองทุน ESG’ ลงทุน 8 ปี ลดภาษี 1 แสนบ.เพิ่มเงินลงทุน 1 หมื่นลบ.
ก.ล.ต.ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม SRI Fund ถึงสิ้นปี 67 ส่งเสริมการลงทุนยั่งยืน