HoonSmart.com>>ตลาดฯ เปิดรายชื่อ 228 บจ.ในหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 67 ครองมาร์เก็ตแคปฯ 82% ของทั้งหมด SET และ mai ได้อันดับ AAA 56 บริษัท AA 80 บริษัท A 71 บริษัท BBB 21 บริษัท ตั้งเป้าปี 69 กว่า 450 บริษัท ด้านบล.ทรีนีตี้คาด 22 หุ้นใหม่เข้าดัชนี SETESG ในครึ่งปี 68 DELTA, TLI, TU, SCCC, BTG, KCE, MBK, TASCO, JMT, JMART, PSH, MOSHI, DITTO, SNNP, SCGD, BBGI, SGC, SSP, ASK, VIH, KCG, SMPC ชู”เดลต้าฯ”จุดพลุสถาบันเทรดคึกคัก
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ประจำปี 2567 มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ได้รับการประกาศผลประเมินรวมทั้งสิ้น 228 บริษัท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืน (sustainable investment) ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั้งในและต่างประเทศ
บริษัทที่ได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 14.87 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ 12 ธันวาคม 2567) โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 400 บริษัท และปี 2569 จะเพิ่มเป็น 450 บริษัท
ทั้งนี้ แยกเป็น บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ AAA มีจำนวนทั้งสิ้น 56 บริษัท บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ AA มีจำนวนทั้งสิ้น 80 บริษัท บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ A มีจำนวนทั้งสิ้น 71 บริษัท บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในระดับ BBB มีจำนวนทั้งสิ้น 21 บริษัท โดยกลุ่มบริการติดมากสุด 43 บริษัท ตามด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 34 บริษัท กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 34 บริษัท ส่วนกลุ่มธุรกิจการเงิน ติด 31 บริษัท
“ผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุน ใช้ควบคู่กับข้อมูลอื่น ๆ ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งนับวันปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) จะยิ่งส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ โดยปัจจุบันมีกองทุนบางประเภทที่ใช้ SET ESG Ratings เป็นหนึ่งในนโยบายการลงทุน เช่น กองทุน Thailand ESG Funds (TESG) มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของกองทุน (AUM) กว่า 14,545 ล้านบาท และกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง หน่วยลงทุนประเภท ก. มี AUM 150,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนด้าน ESG เพิ่มขึ้น สอดรับกับทิศทางความตื่นตัวของ บจ. ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นถึงพัฒนาการทั้งในฝั่งของผู้ลงทุนและ บจ. อย่างต่อเนื่อง” นายศรพลกล่าว
ในการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 มี บจ. ที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings รวม 228 บริษัท (ระดับ AAA 56 บริษัท ระดับ AA 80 บริษัท ระดับ A 71 บริษัท และระดับ BBB 21 บริษัท) โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมคิดเป็น 82% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai (ณ 12 ธันวาคม 2567)
“เป็นที่น่าสนใจว่า ในปีนี้มี บจ. ขนาดกลางและเล็กที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 10,000 ล้านบาทสามารถผ่านเกณฑ์ SET ESG Ratings ได้ถึง 106 บจ. เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังพบว่า บจ. มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นในทุกมิติ ทั้ง E S และ G โดยมีความโดดเด่นในด้านการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า การวิเคราะห์ผลกระทบและบริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงมีการตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)” นายศรพลกล่าว
SET ESG Ratings คัดเลือกจาก บจ. ที่สมัครใจเข้าร่วมการประเมิน และมีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินผ่าน 50% ในมิติ E S และ G และต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด เช่น เป็นบริษัทที่มีผลการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (CGR) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป ไม่เป็นบริษัทหรือมีกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ถูกกล่าวโทษหรือได้รับการตัดสินความผิดเรื่อง ESG จากหน่วยงานทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เป็นบริษัทที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย CB, CC, CF, CS เป็นต้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนและปรับปรุงเกณฑ์ประเมินเป็นประจำทุกปีเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทและเทรนด์ ESG ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังติดตามคุณสมบัติของ บจ. ตลอดกระบวนการ หาก บจ. ขาดคุณสมบัติตามเกณฑ์หลังจากที่ประกาศเรตติ้งไปแล้วอาจถูกถอดออกจาก SET ESG Ratings ได้ รวมถึงการขึ้นข้อความเพื่อให้ผู้ใช้ SET ESG Ratings พิจารณาข้อมูล ESG ของบริษัทเป็นการเพิ่มเติม โดยปี 2567 มี 2 บริษัทที่ถูกถอดออกจากการเป็นหุ้น ESG คือ EA กับ BCP
ทั้งนี้ ดูรายชื่อบริษัทหุ้นยั่งยืนได้ที่ https://setsustainability.com/libraries/1258/item/set-esg-ratings
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ มองว่า รายชื่อหุ้นยั่งยืนที่เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายบริษัท จะถูกนำมาใช้เป็น Universe ตั้งต้นในการคัดกรองหุ้นที่จะถูกนำเข้ามาเป็นสมาชิกของดัชนี SETESG ในรอบครึ่งแรกปี 2568 ทำให้ดัชนี SETESG มีการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร หากใช้เกณฑ์การคัดเลือกของตลาดหลักทรัพย์ล่าสุด จะพบว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นดังนี้
หุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SETESG ในรอบถัดไปได้แก่ DELTA, TLI, TU, SCCC, BTG, KCE, MBK, TASCO, JMT, JMART, PSH, MOSHI, DITTO, SNNP, SCGD, BBGI, SGC, SSP, ASK, VIH, KCG, SMPC
ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะหลุดออกจาดัชนี SETESG ในรอบถัดไปได้แก่ IRPC, ERW, GFPT, BAFS, KSL, KEX, M-CHAI, TOG, ETC, NOBLE, BRI, NYT, NRF
” DELTA เข้ามาอยู่ในดัชนี SETESG ทำให้การลงทุนของกองทุน ThaiESG ในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุน Passive/Index fund ที่อิงกับดัชนี SETESG ก่อนหน้านี้ รวมถึงกอง Active fund บางกองที่ไม่มีตัวหุ้นดังกล่าวในพอร์ต ณ ปัจจุบัน”บล.ทรีนีตี้ระบุ
สำหรับหุ้นตัวอื่นที่กลับมาได้รับเรตติ้ง ESG อีกครั้งในปีนี้หรือได้รับเรตติ้งในปีนี้เป็นปีแรก คาดว่าจะถูกนำเข้าสู่ดัชนี SETESG ในรอบถัดไป จนเข้าไปอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนสถาบันมากขึ้น มองว่าได้แก่ TLI, TU, BTG, KCE, TASCO, JMT, JMART, MOSHI
ส่วนหุ้นขนาดกลางที่อาจได้รับ Sentiment เชิงลบในระยะสั้น จากการไม่ได้รับเรคคิ้ง ESG ในปีนี้ มองไปยัง IRPC, ERW, GFPT, BAFS, KSL, KEX