3 โบรกฯ ฟันธง ‘หุ้นไฟฟ้า’ ถูก น่าเก็บลุ้นอัพไซด์กว่า 50%

HoonSmart.com>> 3 โบรกเกอร์ส่องกลุ่มพลังงาน มาร์เก็ตแคปปี 66 หายไปมาก พุ่งเป้ากลุ่มไฟฟ้าเจอศึกหนัก ราคาเดี้ยงแห่งปี มองเป็นโอกาสเข้าลงทุนจาก Valuation ถูก ราคาหุ้นมีอัพไซด์กว่า 50%  กลุ่มโรงกลั่นปีนี้ได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นฟื้น แต่ปี 67 ไม่ดีเท่า   พลังงานต้นน้ำผันผวนตามราคาน้ำมัน บล.บัวหลวงมองราคาน้ำมันทรงตัวได้ดีกว่าปีนี้  แนะเลือกลงทุนรายตัว อิงผลงานเด่น เชียร์ BCPG, EGCO, GULF, BPP, PTTEP, TOP, BGRIM, GPSC

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มพลังงานในช่วงครึ่งปี 2566  มาร์เก็ตแคปปรับตัวลงไปเฉลี่ยราว 12-13% และไตรมาส 3  ลดลงอีก 10% รับผลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ปรับขึ้นไปมากจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้มาร์เก็ตแคปของหุ้นกลุ่ม Defensive หายไป รวมถึงหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าด้วย ซึ่งเป็นปีที่ราคาหุ้นไฟฟ้าปรับตัวลงมากกว่าตัวอื่น ๆ ปีนี้ไม่มี Upside เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น โดยหุ้น EA, BGRIM, GPSC จัดได้ว่า Underperform สุดของกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นปีนี้ปรับตัวได้ดีจากค่าการกลั่นฟื้น

แนวโน้มกำไรของกลุ่มพลังงานในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวจากปี 2565  และจะทรงตัวต่อเนื่องในปี 2567 บนสมมติฐานราคาน้ำมันไม่สูง +/-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่ง PTTEP จะเสมอตัว เพราะ Stock gain จะมีไม่มากเท่าปี 2566 โดยราคาน้ำมันปี 2565 เฉลี่ยแถว 70 เหรียญสหรัฐ ปรับขึ้นมาเป็น 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปี 2566

สำหรับกลุ่มโรงกลั่นราคาหุ้นน่าจะปรับตัวลงในไตรมาส 4/2566 เพราะค่าการกลั่น GRM ตอนนี้ลงมาอยู่แถว 4-5 เหรียญสหรัฐ จากเฉลี่ย 10 เหรียญสหรัฐในไตรมาส 3 แต่มองเป็นโอกาสซื้อสะสม

การลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานในปี 2567 แนะนำหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากได้ประโยชน์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลง และ Valuation ไม่แพง ราคาหุ้นมี Upside 50-70% คาดว่าบอนด์ยีลด์จะปรับตัวลงตามนโยบายของสหรัฐที่คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลง ราว 1-1.25% ทำให้หุ้น Defensive ที่ Underperform กลับมา โดยแนะนำหุ้น BCPG ให้ราคาเป้าหมาย 14.90 บาท, EGCO ราคาเป้าหมาย 220 บาท และ BPP ราคาเป้าหมาย 18.80 บาท

นายเบญจพล กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในปี 2567 มองกรอบดัชนี SET ไว้ที่ 1,440-1,580 จุด และกรณีดีที่สุด (Best case) จะอยู่ที่ 1,740 จุด คิดเป็น P/E 16 เท่า และอัตราการเติบโตกำไรบจ. (Earning Growth)  จะอยู่ ที่ 13-14% สูงกว่าปี 2566 ที่คาดโต 10%

น.ส.สุพพตา ศรีสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า กลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อนักลงทุนต่างชาติไม่เอาหุ้นไทย ก็จะถูกขายก่อน ทำให้มาร์เก็ตแคปของกลุ่มพลังงานปรับตัวลงไปด้วย เหมือนกับกลุ่มอื่นๆ  ดังนั้นหากจะเข้าลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้เลือกเล่นเป็นรายตัวเน้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดี ซึ่งในแง่ปัจจัยพื้นฐานจะเลือก”ซื้อ”หุ้น PTTEP ให้ราคาเป้าหมาย 212 บาท และ TOP ให้ราคาเป้าหมาย 68 บาท ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าจะแนะนำ”ซื้อ”GULF ราคาเป้าหมาย 68 บาท เนื่องจากกำไรยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และรายได้จากโรงไฟฟ้ามีเสถียรภาพ รวมถึงราคาหุ้นปรับตัวลงไปมาก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันเป็นปัจจัยจากนอกประเทศ ซึ่งจะมีความเกี่ยวพันกับภูมิรัฐศาสตร์ด้วย มองว่าราคาน้ำมันในปี 2567 จะทรงตัวได้ดีกว่าปีนี้ ทำให้ยังสามารถลงทุน PTTEP ได้อยู่ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 89 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากมุมมองเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น

ส่วนกลุ่มโรงกลั่น มองว่า ค่าการกลั่นไม่ดีเท่าปีนี้ที่มีค่าเฉลี่ยที่ 7 เหรียญสหรัฐ ส่วนปี 2567 คาดเฉลี่ยที่ 5-6 เหรียญสหรัฐ

นายเวทิต ตั้งจินดากุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลงไปมาก จากภาวะตลาดโดยรวม และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้การแข่งขันในการเข้าประมูลโครงการสูง ๆ ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าในอดีต ส่วนปัจจัยนอกประเทศที่ส่งผลกระทบมาจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงนาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังปรับขึ้นได้อีกในครึ่งปีหลัง และทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าต่างปรับตัวลง  ซึ่งปี 2567 ยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าอยู่ แม้ราคาพลังงานจะทรงตัว แต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก เพราะสถานการณ์ตะวันออกกลางยังไม่จบ อีกทั้งไม่รู้ว่าภาครัฐฯจะเข้าแทรกแซงเรื่องค่า Ft เพิ่มอีกหรือเปล่า ถ้าแทรกแซงอีกกลุ่มโรงไฟฟ้าก็ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

“ภาพในระยะสั้นจากที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวลง และเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง ก็จัดเป็นแรงหนุนให้กับกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ในช่วงสั้น ยังคงแนะนำ”ซื้อ”หุ้น GULF ให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 55 บาท BCPG  ที่ 10.8 บาท และแนะนำ”เทรดดิ้ง”หุ้น BGRIM และ GPSC เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าก่อนเกิดโควิด-19 และยังต่ำกว่าช่วงโควิดด้วย จึงมีความน่าสนใจในแง่ Valuation”นายเวคินกล่าว