ดาวโจนส์ปิดลบ 40 จุด สวนทาง S&P 500-Nasdaq  

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 40 จุด นักลงทุนประเมินความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดจับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย บอนด์ยีลด์ปรับตัวลงต่อ หุ้นพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น   นำโดยกลุ่มเฮลธ์แคร์และจากการรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบจ.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 8 พ.ย. 2566 ที่ 34,112.27 จุด ลดลง 40.33 จุด หรือ 0.12% ขณะที่นักลงทุนประเมินการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)หลายราย เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยและจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,382.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด, +0.10%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,650.41 จุด เพิ่มขึ้น 10.56 จุด, +0.08%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งสูงถึง 5% ในช่วงปลายเดือนต.ค. โดยลงตัวมาที่ระดับต่ำกว่า 4.6% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดและข้อมูลแรงงานที่อ่อนตัวลง นำไปสู่ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางได้เสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงหนุนให้หุ้นพุ่งขึ้น ทั้งดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ยังปรับเพิ่มขึ้นติดกันยาวที่สุดในรอบเกือบสองปี โดย ดัชนี S&P500 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 8 ส่วนดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นติดกันเป็นวันที่ 9

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าตลาดมองว่ามีโอกาสประมาณ 50% ที่จะเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 41% ในสัปดาห์ก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลายรายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ว่ายังเปิดทางที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกทำให้เกิดความไม่แน่นอน โดยนางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด มองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกเพราะเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งได้กล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดการประชุมวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแผนกสถิติและวิจัยของเฟดเมื่อคืนนี้ ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

ส่วนในวันนี้ (9 พ.ย.) นายพาวเวลล์มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

นักลงทุนยังวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัทที่รายงานล่าสุด
หุ้น Eli Lilly บวก 3.2% หลังสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ( U.S. Food and Drug Administration)อนุมัติการจำหน่ายยาลดน้ำหนัก
หุ้น Warner Bros Discovery ร่วง 19% หลังชี้ว่าการประท้วงของกลุ่มนักเขียนและผู้ผลิตในฮอลลีวูด รวมทั้งตลาดโฆษณาที่อ่อนแอ อาจจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในปีบัญชี 2024
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงจากราคาน้ำมัน WTI ปรับลงต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.23% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.41%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ด้วยแรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มเฮลธ์แคร์และจากการรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจและการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง เพื่อหาสัญญานทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)

ยอดค้าปลีกในยูโรโซนลดลงในเดือนกันยายน สอดคล้องกับที่คาดไว้ ขณะที่ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในยูโรโซนได้เพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเป็น 4%

ผู้กำหนดนโยบายของ ECB กล่าวว่า ECB ต้องเห็นความคืบหน้าต่อเนื่องในการลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และบริษัทต่างๆ พร้อมกับรัฐบาลต้องร่วมกันเพื่อไม่ให้มีการเข้มงวดด้านนโยบายมากขึ้น

หุ้น Vestas ผู้ผลิตกังหันลมของเดนมาร์ก เพิ่มขึ้น 9.8% จากกำไรและรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสสามที่ดีเกินคาด
หุ้น Continental ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เพิ่มขึ้น 4.1% หลังคาดการเติบโตของธุรกิจยานยนต์และตลาดรถยนต์ทั่วโลกในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ที่แข็งแกร่งกว่าที่ประมาณการไว้
หุ้น Marks & Spencer ในอังกฤษ พุ่ง 8.4% จากกำไรครึ่งปีแรกดีกว่าที่คาด 75%
หุ้น Commerzbank ในเยอรมนี บวก 0.7% จากกำไรสุทธิไตรมาสสามดีกว่าที่คาดถึง 3 เท่า

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 444.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด, +0.28%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,401.72 จุด ลดลง 8.32 จุด, -0.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,034.16 จุด เพิ่มขึ้น 47.93 จุด, +0.69%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,229.60 จุด เพิ่มขึ้น 76.96 จุด, +0.51%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.04 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 75.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.07 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล