โบรกฯ เคาะเป้า SPREME 5 บาท ..มองปีนี้กำไรโตแรง 28%

HoonSmart.com >> 4 โบรกเกอร์ “เอเอสแอล – เคจีไอ – คิงส์ฟอร์ด – ฟินันเซีย ไซรัส”  เคาะราคาเป้าหมาย SPREME สูงสุด 5 บาท/หุ้น เชื่อมั่นศักยภาพผู้นำ SI โดดเด่นงานภาครัฐด้านการศึกษา ชี้สถิติโอกาสคว้างานสูง 70%ของงบการศึกษากว่า 3 แสนล้านบ.  –  คาดกำไรปีนี้เติบโต 28%

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)  เอเอสแอล จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) ผู้ประกอบธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) ทั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และโปรแกรมซอฟต์แวร์ (Software) รวมถึงให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงหลังการขาย และการให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ เช่น โรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย ธนาคาร และรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มลูกค้าเอกชน เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐดังกล่าว

สำหรับ SPREME มีจุดเด่นทั้งในแง่ของความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ระดับธุรกิจ โดยมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทันต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่เสมอ ให้บริการได้หลากหลายและครบวงจร ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการเข้าประมูลงานได้มากยิ่งขึ้น และความแข็งแกร่งในส่วนกลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ โดยการจัดหาสินค้าส่งมอบ และการให้บริการ คำนึงถึงมาตรฐานและระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้

ทั้งนี้ ประเมินมูลค่าหุ้นเหมาะสมของ SPREME ณ สิ้นปี 2567 ได้เท่ากับ 5.00 บาท อิง PE ที่ 20.7 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจคล้ายกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการคำนวณ EPS จากประมาณการกำไรสุทธิในปี 2567 เท่ากับ 180.08 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท

ด้านฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) (KGI) ระบุว่า SPREME เป็นผู้ให้บริการ SI ครบวงจรตั้งแต่ปี 2536 เน้นให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น สัดส่วนรายได้ขายและติดตั้งอยู่ที่ 75-87% ของรายได้หลัก ขณะที่ธุรกิจบำรุงรักษาและให้เช่าคิดเป็น 5-8% และ 4-8% ตามลำดับ

ประเมินมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2567 ที่ 4.50 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PE ที่ระดับ 16.5 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ย PE ของหุ้นในกลุ่มฯ ที่ 15.5 เท่า) เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตรากำไรที่เหนือกว่ากลุ่มฯ โดยมองว่าเป็นวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากสะท้อนธุรกิจ SPREME ที่มีลักษณะรายได้ผันผวนตามวัฏจักรการรับรู้รายได้โครงการที่ประมูลได้ในแต่ละปี โดยประเมินการเติบโตของ SPREME อยู่ที่ 22% จากปีก่อน CAGR (2566-68F) คิดเป็น PEG เพียง 0.8 เท่า ต่ำกว่า <1 เท่า ถือว่าน่าสนใจในทางทฤษฎี

บล. คิงส์ฟอร์ด  ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ของ SPREME ที่ 4.50 บาท มองว่าผลการดำเนินงานปี 2567 ปรับตัวได้ดีกว่าปีก่อน การเติบโตของบริษัทฯ มาจากการประมูลงานจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐที่อยู่ในช่วงของการปรับตัวให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในภาคของหน่วยงานการศึกษา การธนาคาร และการที่บริษัทฯ จะมีการปรับตัวไปในทาง Public Safety และ Smart City เพิ่มมากขึ้น รวมถึงงานจากทางภาครัฐที่คาดว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ จึงคาดการณ์ว่าปี 2567 รายได้จะอยู่ที่ 1,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 195.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.04% จากปีก่อน

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ประเมินว่า SPREME มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะภาคการศึกษา หากดูจากข้อมูลงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้โอกาสของการเติบโตในอนาคตในอุตสาหกรรมยังมีอีกมาก พร้อมด้วยประสบการณ์ของบริษัทฯ กว่า 30 ปี ทำให้บริษัทฯ มีอัตราชนะประมูลกว่า 60-70% นอกจากนี้ ยังได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทเอกชนที่เข้าประมูลงานภาครัฐมาซื้อสินค้าของบริษัทฯ ไปใช้งานต่อ

ประเมินมูลค่าเหมาะสม  SPREME ที่ 4.50 บาท อิง PER ที่ 15 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 2567 PER ของบริษัทในต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน และเปรียบเทียบกับบริษัทในประเทศที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน มีค่าเฉลี่ย PER ในช่วงปี 2559-2566 ที่ 13.9-14.1 เท่า บนประมาณการ EPS ปี 2567 ที่ 0.30 บาท ได้มูลค่าเหมาะสมที่ 4.50 บาท ดังกล่าว

ทั้งนี้ SPREME ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นละ 2.60 บาท เข้าจดทะเบียนในตลาด SET  กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) วันที่ 2 พฤษภาคม 2567