HoonSmart.com >>PROEN x DAMAC Group พยัคฆ์ติดปีก ผู้นำ DATA Center เมืองไทย ฟากบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ชี้ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรม Data Center ของไทย ชี้หุ้น “Outperform” เคาะราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 8.60 บาท
ภาพใหญ่นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน AI ระดับภูมิภาคและโลกของรัฐบาล เริ่มชัดเจนขึ้น หลังนาย Jensen Huang ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
NVIDIA ถือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) , ชิพ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การพบหารือครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความร่วมมือ และแสวงหาความร่วมมือในอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายของเราร่วมกัน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังยินดีกับความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและ NVIDIA ด้วย
ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า AI มีความสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและความมั่นคงของประเทศ ช่วยให้ประเทศสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างงาน และปกป้องประชาชน ซึ่ง NVIDIA พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ระดับโลก รวมทั้งแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อสนับสนุนโครงการด้าน AI ของไทย
ล่าสุด !! มีรายงานว่า EDGNEX Data Centers โดย DAMAC ได้มีการลงนามความร่วมมือกับ Siam AI เพื่อขับเคลื่อนระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง และโซลูชั่นเอดจ์แบบ Al-driven ในประเทศไทย
“ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการปรับขนาด ความปลอดภัย และนวัตกรรม เพื่อช่วยให้ธุรกิจด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และอื่นๆ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลระดับภูมิภาค ก้าวสำคัญครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเดินทางของเราในการปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก”
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า Damac Group ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Husain Saiwani ยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนาอสังหาฯในดูไบ วางแผนลงทุนประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รอบรับการเป็น Hup ของบริการคลาวด์และ AI
การจับมือระหว่าง EDGNEX Data Centers โดย DAMAC ได้มีการลงนามความร่วมมือกับ Siam AI ในฐานะ Exclusive ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ ตัวสำคัญในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำ Data Center ของเมืองไทยและในภูมิภาคเอเชียของ DAMAC Group หลังจากที่ก่อนหน้าได้ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) (PROEN) ผ่านการร่วมลงทุนกับกลุ่ม PROEN เปิดศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์ภายใต้ชื่อ Edgnex Data Centers by DAMAC
และ DAMAC Group มีแผนลงทุนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยด้วยงบลงทุนประมาณ 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน
การจับมือกับ DAMAC Group ของ PROEN ทำให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวรกระโดดในอนาคต เพื่อมุ่งสู่ผู้นำ Data Centers ยิ่งได้แรงหนุนจากการที่ EDGNEX Data Centers ประกาศจับมือกับ Siam AI ถือเป็นแรงส่งที่สำคัญทำให้กลายเป็น “พยัคฆ์ติดปีก” ในอนาคต ซึ่งจะเป็นภาพที่ชัดเจนของการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรในปี 2568
ขณะที่บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์ โดยมองว่า ความร่วมมือระหว่าง PROEN-DAMAC ถือเป็น จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรม Data Center ของไทย
“ความร่วมมือของ PROEN กับ DAMAC Group (ผ่านแบรนด์ EDGNEX) ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินที่มีอยู่เดิม หลังจากการขายอาคาร Data center มูลค่า 833 ล้านบาทให้กับ DAMAC ได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Seashore Data Center and Cloud Services (Seashore) โดย DAMAC ถือหุ้น 70% และ PROEN ถือหุ้น 30%”
การร่วมทุนนี้มีแผนพัฒนา Data center ขนาด Hyperscale โดยแบ่งเป็น 2 เฟส: เฟส 1 (5MW) จะปรับปรุงโครงการเดิมของ PROEN เพื่อเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบใน 1Q68 ส่วนเฟส 2 (15MW) มีเป้าหมายที่จะเปิดดำเนินการได้ใน 1H69 เราประเมินความต้องการด้าน AI ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัจจัยกระตุ้นอุปสงค์ โดยตู้ Rack สำหรับ AI ต้องการพื้นที่มากกว่าตู้ Rack พื้นฐานราว 4 เท่า แต่ให้อัตราค่าเช่าสูงกว่า 6-7 เท่า
เราใช้สมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยมโดยประเมินสัดส่วนตู้ Rack AI ต่อ ตู้ Rack พื้นฐานที่ 40:60 หากความต้องการ AI เพิ่มขึ้นจะเป็น Upside ต่อประมาณการฯ ทั้งนี้แบรนด์ EDGNEX ของ DAMAC ดำเนินการศูนย์ข้อมูลรวม 300MW ใน 6 ประเทศรวมถึงประเทศไทย
มองว่าการเพิ่มทุนของ PROEN ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง โดยในวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนมูลค่าราว 688 ล้านบาท ผ่านการเสนอขายแบบ PP 400 ล้านหุ้น
ประกอบกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ คาดว่าส่วนของผู้ถือหุ้น PROEN จะเพิ่มเป็น 1.3 พันล้านบาทในปี 2568 ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 0.66 เท่า (จาก 2 เท่าในปี 2566 และ 1.6 เท่าในปี 2567) นอกจากนี้ Altman Z-score (Emerging market) ปรับขึ้นเป็นระดับ Safe zone ภายหลังการได้ DAMAC เป็นพันธมิตรและการเพิ่มทุนแบบ PP (หลังจากที่เคยลดลงเป็นระดับ Distress zone ในปี 2566 ที่ผ่านมา)
“เราเริ่มวิเคราะห์ PROEN โดยให้คำแนะนำ “Outperform” และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 8.60 บาท โดยใช้การประเมินมูลค่าแบบรวมส่วน ประกอบด้วย: 1) มูลค่าศูนย์ข้อมูลปัจจุบันของ PROEN ที่ 2.1 บาท (WACC 7.2%, Terminal growth 3%) 2) สัดส่วน 30% ในธุรกิจศูนย์ข้อมูล 20MW ของ Seashore เท่ากับ 6.4 บาท (WACC 7.5%, Terminal growth 3%) 3) ธุรกิจก่อสร้างที่ PE 12 เท่า เท่ากับ 0.4 บาท และ 4) รายได้จากการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับ Data center สาหรับ Seashore เท่ากับ 0.5 บาท (WACC 9%, Terminal growth 3%)
สุดท้าย เราหักหนี้สินสุทธิปี 2568 จำนวน 663 ล้านบาท (หรือ 0.8 บาทต่อหุ้น) ณ ระดับราคาเป้าหมายของเรา PROEN จะเทรดที่ PBV 0.52 เท่า (+ 1 S.D.) ซึ่งเราคำนึงถึงปัจจัยการเพิ่มทุนแบบ PP แล้ว
เราประเมินการเทรดที่ระดับ Premium กว่าค่าเฉลี่ยมีความเหมาะสมเนื่องจาก การปลดล็อคปัญหา Financial distress และการเติบโตตลอด 3 ปีข้างหน้า ผ่านการลงทุน Data center ไปกับ Seashore
———————————————————————————————————————————————————–