HoonSmart.com>>”ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย”(24CS) เล็งผลงานพลิกฟื้นตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 68 หลังจบดีลซื้อกิจการ T.I. และ Dr.jel Group 25 ม.ค.68 มั่นใจปีหน้าสดใสผลงานเทิร์นอะราวด์เต็มตัว สองธุรกิจใหม่โชว์เป้าหมาย EBITDA รวมถึง 150 ล้านบาท ภายใน 2 ปี เป้ายอดรายได้ปี 68 รวมกัน 867 ล้านบาท พร้อมย้ำธุรกิจเดิมยังคงดำเนินต่อไปไม่ทอดทิ้ง
นายยศวีย์ วัฒนธีระกิจจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย (24CS) เปิดเผยว่า ปี 2568 จะเป็นปีแห่งความสดใสของบริษัทที่จะสามารถเทิร์นอะราวด์ได้เต็มตัว หลังเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ บริษัท เทคโนโลยี อินเทลลิเจ้นซ์ (T.I.) และกลุ่ม Dr.jel Gruop เข้ามา คาดว่าจะจบได้ในวันที่ 25 ม.ค. 2568
“ปัจจุบันเราอยู่ในภาวะ Downside แต่ผู้บริหารได้พยายามหาน่านน้ำใหม่ เพื่อทำให้ดีขึ้น จึงได้ทำการศึกษาสองธุรกิจนี้มาเป็นปี และตกลงทำดีลซื้อกิจการกัน จึงอยากให้นักลงทุนมั่นใจและให้ล้างภาพเก่าออก มาดูภาพใหม่ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีหน้าก็จะเห็นแล้ว ผลดำเนินงานจะเป็นตัวตอบโจทย์นักลงทุนทั้งหมดว่าผู้บริหารคิดถูกหรือคิดผิด”
บริษัท เทคโนโลยี อินเทลลิเจ้นซ์ (T.I.) ประกอบธุรกิจให้บริการติดตั้ง ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ เซิฟเวอร์ และเน็ตเวิร์คทุกชนิด และเป็นที่ปรึกษาดูแลระบบด้านไอทีต่าง ๆ รวมถึงประกอบกิจการซื้อขายอุปกรณ์ไอทีทุกชนิด โดยไฮไลน์ของ T.I. จะอยู่ที่ AI และ Data Center เป็นเทรนด์ที่เข้ามา โดยทาง T.I. มีประสบการณ์สูง ลูกค้าของ T.I. จะเป็นหน่วยงานภาครัฐคือ โทรคมนาคมแห่ง (NT) สัดส่วนประมาณ 95% และที่เหลือ 5% จากภาคเอกชน เพราะฉะนั้น T.I. บริษัททำดิวดิลิเจ้นท์มาแล้วค่อนข้างสบายใจ และอยู่ในเมกะเทรนด์ที่ไปต่อได้ โดย T.I. ได้นำเสนอเป้าหมายโอกาส (Opportunity) ในส่วนของ EBITA 80 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ยอดรวมรายได้ของโครงการ (Total Rev Projection) ในปี 2568 เท่ากับ 588 ล้านบาท และปี 2569 เท่ากับ 603 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5-7% ซึ่งจะคิดที่ 7% ไว้ก่อนตามอุตสาหกรรม
สำหรับธุรกิจคอสเมติกส์ บริษัทได้เข้าไปทำดีลกับ Dr.jel Group ซึ่งจะมี 1. บริษัท ออกานิกส์ กรีนส์ ฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าสารตั้งต้นเพื่อมาผลิตของให้กับ OEM และของที่เป็นแบรนด์ Inhouse ซึ่งมีใบอนุญาติจากทั่วโลก 2. บริษัท ออกานิกส์ อินโนเวชั่นส์ เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาและเป็นโรงงานผลิตอาหารเสริมทางการแพทย์ โดยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของกลุ่มออกานิกส์ เพื่อขายให้กับบริษัทภายในกลุ่มอีกทั้งยังผลิตสินค้าให้กับบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการตีตราแบรนด์เป็นของตัวเอง (OEM) และ 3. บริษัท ด็อกเตอร์ เจล ซึ่งเป็นปลายน้ำ จะเป็นบริษัทขายปลีกสินค้าต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ “Dr.jel” ทั้งเครื่องสำอางและอาหารเสริม โดยการขายปลีกผ่านช่องทางออนไลน์ แพลตฟอร์มต่าง ๆ และช่องทางเทเลเซลล์ เป็นต้น
โดยธุรกิจคอสเมติกส์ ได้มีเป้าหมายโอกาส (Opportunity) ในส่วนของ EBITA 70 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ยอดรวมรายได้ของโครงการ (Total Rev Projection) ในปี 2568 เท่ากับ 279 ล้านบาท และปี 2569 เท่ากับ 292 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8% ซึ่งธุรกิจนี้ส่วนใหญ่กำไรสุทธิจะมีประมาณ 15-20%
“เรามั่นใจที่ลงทุน 220 ล้านบาทในการซื้อ 2 บริษัทมา แต่สิ่งที่ได้การันตีมา EBITDA 150 ล้าน ภายใน 2 ปี ซึ่งจะสามารถสร้างผลกำไรให้เราได้สูง”
ด้านงานในมือ (Backlog) ณ 30 ก.ย.2567 มีจำนวน 750 ล้านบาท แบ่งเป็นจากธุรกิจก่อสร้าง 442 ล้านบาท จาก 7-8 โครงการที่ทำอยู่ในขณะนี้ และขายพลังงานไอน้ำ 308 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไปแม้จะได้ธุรกิจใหม่เข้ามาก็ตาม