HoonSmart.com>>กลุ่มเอไอเอ ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2566 มีมูลค่าธุรกิจใหม่(VONB)โต 35% รวมราว 34,969 ล้านบาท เป็นการเติบโตสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้านเบี้ยรับปีแรกรวมราว 67,830 ล้านบาท พุ่ง 54% ผลจากตลาดประกันชีวิตเอเชียแปซิฟิกเติบโตก้าวกระโดด เหตุการคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัด การเติบโตเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ หนุนรายได้ในเอเชียเพิ่มขึ้น ขับเคลื่อนความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพในระยะยาว
กลุ่มเอไอเอ ที่ทำธุรกิจในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก 18 ประเทศ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 มีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้น 35% มีมูลค่าอยู่ที่ 994 ล้านเหรียญสหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยนไตรมาส 3 เฉลี่ยอยู่ที่ 35.18 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะมีมูลค่าราว 34,969 ล้านบาท) มีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ แข็งแกร่งอยู่ที่ 51.2% เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 50.8% ด้านเบี้ยประกันภัยรับปีแรก(ANP) เพิ่มขึ้น 54% มีมูลค่ารวม 1,938 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยไตรมาส 3 อยู่ที่ 35.18 บาทต่อเหรียญสหรัฐจะมีมูลค่าราว 68,179 ล้านบาท)
ด้าน อัตรากำไรขั้นต้นที่รายงานตามมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงทรงตัวที่ 10% ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้น 9% เป็น 9,355 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 329,109 ล้านบาท)
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า มูลค่าธุรกิจใหม่ในไตรมาสที่ 3 เป็นการเติบโตที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา สะท้อนถึงความต้องการในผลิตภัณฑ์และบริการหลังจากผ่านช่วงวิกฤตโรคระบาด โดยการเติบโตหลักๆ มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ล่าสุดได้รับการอนุมัติจากหน่วยการกำกับดูแลให้อัพเกรดใบอนุญาตฉือเจียจวงให้ครอบคลุมทั่วทั้งมณฑลเหอเป่ยแล้ว ฮ่องกง อาเซียน (ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม) และอินเดีย ทั้งจากช่องทางตัวแทน ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น และตัวแทนเก่าที่สร้างผลงานได้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่องทางพันธมิตรธุรกิจก็เติบโตเช่นกัน
“เราอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านความคุ้มครองและโซลูชันด้านการออมระยะยาว และยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้คนหลายล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกับส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย”นายหลี่ กล่าว
ทั้งนี้ จากมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้น 35% มูลค่ารวม 994 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 34,969 ล้านบาท) มาจากช่องทางตัวแทนทำได้เพิ่มขึ้น 27% ในขณะที่ช่องทางพันธมิตรธุรกิจเติบโตขึ้น 62% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565
สำหรับ ตลาดประกันชีวิตในจีน สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตมากกว่า 20% ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากครึ่งปีแรก อันเป็นผลต่อเนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของจีนแผ่นดินใหญ่หลังสถานการณ์โรคระบาด ในขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการออมทรัพย์ระยะยาวยังคงมีมากอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์ประกันโรคร้ายแรงโตเป็นตัวเลขสองหลัก ที่มาจากคุณภาพของตัวแทนหลังจากมีการปรับปรุงโปแกรมพัฒนาศักยภาพใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนสูงขึ้น และรายได้เฉลี่ยของตัวแทนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นระดับเดียวก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาด ส่วนช่องทางประกันผ่านธนาคารนั้นยังเติบโตทแข็งแกร่งและอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ดีขึ้น ขณะที่อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่จากช่องทางตัวแทนโดยรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เป็นผลจากการปรับเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นของแบบประกันออมทรัพย์ระยะยาว และการปรับราคาผลิตภัณฑ์
กลุ่มเอไอเอ ยังคงเดินหน้าด้วยดีกับการขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ในประเทศจีน ซึ่งประกอบด้วย เทียนจิน ฉือเจียจวง เสฉวน หูเป่ย และเหอหนาน อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับการอนุมัติให้อัพเกรดใบอนุญาตฉือเจียจวงให้ครอบคลุมมณฑลเหอเป่ยทั้งหมด
ตลาดประกันชีวิตใน ฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าธุรกิจใหม่อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 แม้ว่าธุรกิจในประเทศได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยอดขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าธุรกิจใหม่ในฮ่องกงในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปี 2566 แรงผลักดันในการสรรหาบุคลากรตัวแทนในพรีเมียร์ เอเจนซี่ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนโดยรวมนั้นสูงกว่าในช่วงเวลาก่อนสถานการณ์โรคระบาด สำหรับช่องทางพันธมิตรธุรกิจนั้น มีการเติบโตอย่างดีเยี่ยมจากทั้งพันธมิตรธนาคารและช่องทางของที่ปรึกษาด้านประกันชีวิตและการเงิน (IFAs)
ขณะที่ ตลาดประกันชีวิตไทย เอไอเอ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในครึ่งปีแรกอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่โดดเด่นในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ตลอดจนจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานและผลผลิตของตัวแทนได้เพิ่มสูงขึ้นในอัตราเลขสองหลัก นอกจากนี้ยังเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนตัวแทนรายใหม่ ส่วนธุรกิจในสิงคโปร์และมาเลเซียนั้น มีรายงานว่ามูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากช่องทางการขายทั้งตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจ
ตลาดเวียดนาม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเชิงลบยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิตในเวียดนาม หากไม่รวมเวียดนาม ตลาดอื่น ๆ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มีตัวเลขสองหลักอย่างแข็งแกร่งจากทั้งสองธุรกิจในอินเดีย ซึ่งเป็นผู้สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัทเอไอเอได้มากที่สุดในกลุ่มตลาดนี้รวมถึงฟิลิปปินส์ สำหรับ Tata AIA Life ในอินเดียมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากตัวแทนอันเป็นเอกสิทธ์ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทประกันชีวิตเอกชนรายใหญ่อันดับสามในอินเดีย โดยรวมแล้ว ธุรกิจในอาเซียนมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นเลขสองหลัก
สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวของเอไอเอเป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญและความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก โดยได้รับการสนับสนุนจากการจัดการพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของเรา และแนวทางการลงทุนที่พิจารณาจากภาระหนี้สินประกันภัยเป็นสำคัญ
ด้านความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น เอไอเอ รายงานว่า ได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่ในสกุลเงินท้องถิ่นและจับคู่สินทรัพย์และหนี้สินอย่างระมัดระวังเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เมื่อรายงานตัวเลขรวมของกลุ่มบริษัท จะมีผลการแปลงสกุลเงินเมื่อรายงานเป็นเหรียญสหรัฐ และรายงานอัตราการเติบโตและใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เนื่องจากข้อมูลนี้ให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของธุรกิจ
ทั้งนี้ เอไอเอ เชื่อมั่นว่า แนวโน้มอนาคตมีโอกาสทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว จากความได้เปรียบทางการแข่งขันที่เกิดจากการกระจายความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และตัวขับเคลื่อนการเติบโตเชิงโครงสร้างที่ทรงพลังสำหรับการประกันชีวิตและสุขภาพในเอเชีย การเพิ่มขึ้นของรายได้ รวมถึงการแทรกแซงจากบริษัทประกันเอกชนอยู่ในระดับต่ำ และการคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัด ยังคงขับเคลื่อนความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพในตลาดเอเชีย
ทั้งนี้ หุ้น AIA Group Ltd. (1299) จดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง วานนี้ (3 พ.ย.2566 ) ปิดที่ 70.9 เหรียญฮ่องกง เพิ่มขึ้น 2.60 เหรียญฮ่องกง หรือ 3.81%