HoonSmart.com>>บอร์ด คปภ. สั่ง เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต เพิ่มทุน 155 ล้านบาทภายใน 30 ก.ย.68 แบ่งชำระ 5 งวด ระหว่างนี้ ห้ามรับประกันภัยใหม่
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้สั่งห้าม บริษัทเคดับบลิวไอ ประกันชีวิต ขยายธุรกิจจนกว่าจะเพิ่มทุนจดทะเบียนรวม 155 ล้านบาทภายในวันที่ 30 กันยายน 2568 ให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ คปภ.ให้ทำการเพิ่มทุนรวมทั้งหมด 5 งวด แยกเป็น
งวดแรก เพิ่มทุน 95 ล้านบาทภายในวันที่ 20 ธ.ค. 2567
งวดที่ 2 เพิ่มอีก 20 ล้านบาทภายใน 28 ก.พ.2568
งวดที่ 3 เพิ่มอีก 10 ล้านบาทภายใน 30.พ.ค.
งวดที่ 4 เพิ่ม 15 ล้านบาท ภายใน 31 ก.ค.2568
งวดที่ 5 เพิ่มทุนอีก 15 ล้านบาท ภายใน 30 ก.ย.2568
พร้อมส่งเอกสารหลักฐานยืนยันการชำระทุนจดทะเบียนตามที่ได้รับการอนุมัติจากนายทะเบียน
ระหว่างช่วงเวลาที่ทำการเพิ่มทุน ห้าม บริษัทเคดับบลิวไอ ประกันชีวิต รับประกันภัยรายใหม่ หรือการขยายวงเงินการรับประกันภัยของกรมธรรม์ประกันภัยที่มีอยู่ ห้ามเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัท
และห้ามก่อภาระผูกพันเพิ่มเติม เว้นแต่เป็นการดำเนินการตามภาระผูกพันที่มีอยู่ จนกว่าจะสามารถดำรงเงินกองทุนให้เป็นไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังห้ามบริษัทดำเนินการซื้อหรือขายอสังหาริมทรัพย์จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และให้บริษัทจัดทำรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการทุก 7 วัน พร้อมกับให้ความเห็นจากหน่วยงานดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายในการประชุมคณะกรรมการของบริษัท
สำนักงาน คปภ. จะติดตามสถานการณ์การดำเนินการของบริษัทอย่างใกล้ชิด และหากพบว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่กำหนด จะใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ คำสั่งนายทะเบียนจะไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย และบริษัทยังคงต้องดูแลลูกค้าตามข้อกำหนดของกรมธรรม์ทุกประการ
สำหรับ เหตุผลของคำสั่งดังกล่าว เป็นผลจากการที่คปภ.ได้ติดตามสถานะการเงินของ บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต อย่างใกล้ชิดพบว่า บริษัทมีเงินกองทุนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่สามารถแก้ไขฐานะการเงินโดยการเพิ่มทุนจดทะเบียน 35 ล้านบาทได้ภายใยวันที่ 29 พ.ย.2567 ตามที่ได้รับการอนุมัติจากนายทะเบียน
ประกอบกับปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ดังนี้
1.มีการจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันตามสัญญาค่าบริการ อันอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และไม่สามารถแสดงที่มาของการจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวและหลักฐานการบริการได้
2.ให้กู้ยืมเงินกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันที่มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ไม่สามารถแสดงหลักฐานการติดตามการใช้เงินตามวัตถุประสงค์การกู้ยืมบางราย รวมถึงไม่มีการรายงานความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมด้านสินเชื่อและผลการตรวจสอบการทำธุรกรรมด้านสินเชื่อต่อคณะกรรมการบริษัท จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามกรอบนโยบายการลงทุนและระเบียบวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการลงทุนของบริษัท
3.มีการนำเงินไปวางมัดจำเพื่อจะซื้ออสังหาริมทรัพย์กับบริษัทที่เกี่ยวโยงกัน โดยมิได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทและมิได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน อันอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
4.มีการเบิกเงินสดล่วงหน้า โดยไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานที่สามารถระบุรายละเอียดวันที่ผู้รับเงินได้รับเงินชัดเจน
รวมทั้งชื่อและข้อมูลการแสดงตนของผู้รับเงิน อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคปภ.
ดังนั้น เพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทเป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ประกอบกับเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนจึงสั่งให้ทำการเพิ่มทุนภายในเวลาที่กำหนดและห้ามรับประกันใหม่
———————————————————————————————————————————————————–