HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาด SET Index วันนี้ แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,375-1,400 จุด ตลาดรอผลประชุมธนาคารกลาง BoJ FED BoE ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ปี 2566 ของยูโรโซน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ แนะซื้อ ADVANC ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus 250.50 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาด SET Index วันนี้ แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,375-1,400 จุด โดยรอติดตามปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ทั้งการประชุมธนาคารกลางหลายประเทศ ได้แก่ BoJ FED BoE รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง GDP ไตรมาส 3 ปี 2566 ของยูโรโซน รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯช่วงปลายสัปดาห์
ด้าน Bond Yield 10 ปีสหรัฐยังทรงตัวที่ราว 4.8% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 5% ในช่วงก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อ Core PCE สหรัฐฯเดือน ก.ย. ออกมาตามคาด +0.3% m-m, +3.7% y-y
ด้านภาพในประเทศกระแสเงินทุนดูผ่อนคลายมากขึ้นหลังเมื่อวันศุกร์ไหลเข้าทั้ง 3 ตลาด (หุ้นพันธบัตร ฟิวเจอร์ส) และหนุนดัชนีฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีทำให้ยังมีโอกาสเห็นการทยอยฟื้นตัวระยะสั้นได้ต่อเนื่องโฟกัสในประเทศยังคงอยู่ที่ความชัดเจนของนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท รวมถึงเข้าสู่ช่วงทยอยประกาศกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 ของบจ.โดยต้องติดตามว่าจะออกมาดี/แย่กว่าคาดอย่างไร และกระทบต่อประมาณการ EPS ปี 2566-2567 ของตลาดหรือไม่ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลง
อย่างไรก็ตามด้าน Valuation ของ SET ปัจจุบันมองว่าไม่สูง โดยหาก PER ถูกปรับลงสู่กรอบ PER 13.2-13.6 เท่าจะเทียบเท่าIndex ราว 1,320-1,360 จุด เป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำ //รอจังหวะสะสมเพื่อถือลงทุนระยะยาวเพิ่มบริเวณ 1,320-1,360 จุด
หุ้นเด่นเดือน ต.ค : AAV, BBL, BDMS, JMT, KCE
หุ้นเด่นวันนี้ : ADVANC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 250.50 บาท โดยจะประกาศกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 เย็นนี้ ตลาดคาดที่ 7.4 พันลบ. +3% q-q, +18% y-y หนุนจากการแข่งขันในภาพรวมที่ปรับตัวลดลงเทียบกับในอดีต ส่งผลให้ ARPU
คาดยังทยอยขยับขึ้นและเป็นบวกต่อ Margin
ทั้งนี้ Consensus คาดกำไรปี 2023 ที่ 2.81 หมื่นลบ. +10% y-y และโตต่อเนื่องแตะ 3.04หมื่นลบ. +8% y-y ธุรกิจกลับเข้าโหมดทำกำไรหลังผ่านช่วงลงทุนหนักไปแล้วธุรกิจกระทบจำกัดจากดอกเบี้ยสูงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แนวรับ 215-212 บาท แนวต้าน 220-222//228-230 บาท
Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคแต่บางลงเหลือ 590 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ 303 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 270 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
ส่วนอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลออกนำโดยอินโดนีเซีย 34 ล้านเหรียญสหรัฐ มีเพียงไทยที่ไหลเข้า 37 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าผสมผสาน
สำหรับ สัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญที่ต้องรอติดตามทั้งการประชุม BoJ FED BoE รวมถึงตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ปี 2566 ของยูโรโซนและการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ
ประเด็นสำคัญวันนี้
DELTA ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ 5.4 พันลบ. +16% q-q, +32% y-y ทำ New High หากไม่รวม FX Gain จะมีกำไรปกติ 5 พันลบ. +14% q-q, +30% y-y ดีกว่าคาด 4%-6% จากรายได้ที่ดีกว่าคาดและภาษีจ่ายต่ำกว่าคาด
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังแผ่วต่อเนื่องจากทั้ง Product Mix และปัญหา Inventory provision ที่ยังมีอยู่ โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 1.75 หมื่นลบ. +14% y-y ส่วนกำไรปี 2567 คาดจะโตเร่งตัวขึ้น +25% y-y เป็น 2.18 หมื่นลบ.
จากคำสั่งซื้อที่ยังเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในกลุ่ม EV และ Data Center ยังคงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 70 บาท ซึ่งราคาหุ้นปัจจุุบันยังเต็มมูลค่า