HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนี SET ทรงตัว Downside เริ่มจำกัด รอรายงานกำไร บจ Q3/66 วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 – 1,410 จุด แนะซื้อเก็งกำไร PTTGC, SCGP ,SCC ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน, หุ้น DELTA กำไร Q3/66 ดีกว่าคาด , หุ้นกลุ่มผลิตน้ำตาล KSL, KBS, BRR รับราคาน้ำตาลทรายปรับขึ้น, MAJOR รับงบไตรมาส 4/66
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,400 – 1,410 จุด คาดทรงตัวรอรายงานกำไร บจ Q3/66 กอปร SET เทรดระดับ F/PE ที่ 15.8X ส่งผลให้ Downside เริ่มจำกัด แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTGC, SCGP ,SCC ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน, หุ้น DELTA กำไร Q3/66 ดีกว่าคาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -1.12%, S&P500 -0.48%, Nasdaq +0.38% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, บริการสื่อสาร, สินค้าฟุ่มเฟือย หลังรายงาน US PCE ก.ย. ทรงตัวตามคาด แต่ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานปรับลดลง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.84% จากแรงขายกลุ่มบริการสุขภาพ -2.9% และธนาคารแนตเวสต์ของอังกฤษ -11.6% จากแนวโน้มกำไรลดลง
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตน้ำตาล เก็งกำไร KSL, KBS, BRR จากประเด็น สนอ. ออกประกาศปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศ เพื่อใช้ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายประจำฤดูการผลิตปี 2566/67 โดยราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะถูกปรับขึ้นกิโลกรัมละ 4 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.66 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำตาลโลกที่ทรงตัวในระดับสูงหลังอินเดียระงับการส่งออกน้ำตาลตั้งแต่เดือน ต.ค.66 เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
ส่วนประเทศไทยคาดผลผลิตอ้อยของไทยปี 2566/67 ที่จะเปิดหีบในช่วงปลายปีนี้ก็มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนราว 10% สำหรับหุ้นที่ได้รับผลทางลบจากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น เช่น CBG, OSP, SAPPE, ICHI
หุ้น MAJOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.70 บาท) แม้กำไรปกติช่วง 3Q66 มีโอกาสอ่อนตัวตามฤดูกาล/ช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.66 ถือว่าไม่มีภาพยนตร์ที่เป็นทีนิยมของคนไทยเท่าไรนักแตกต่างจาก 3Q65 ที่มีเรื่อง บุพเพสันนิวาส2 อย่างไรก็ตาม คาดว่า 4Q66 จะเห็นการกลับมาของธุรกิจหนัง ได้ดี โดย ช่วง ต.ค.66 สัปเหร่อ สามารถทำรายได้จากการเข้าฉายโรงไปที่ระดับมากกว่า 600 ล้านบาท และช่วงปลายปียังมีภาพยนต์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องที่รอเข้าฉาย เช่น The Marvels, Napoleon, Aquaman2
ขณะที่รายได้ค่าโฆษณา และรายได้จากอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะป็อปคอร์น ก็คาดว่าจะลู่ขึ้นไปตามจำนวนคนเข้าโรงหนังเช่นกัน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MAJOR ปี 66 และ 67 ที่ 785 ล้านบาท (+212%YoY) และ 915 ล้านบาท (+17%YoY) ตามลำดับ