3 โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ ETL เป้าสูงสุด 2.62 บาท/หุ้น

HoonSmart.com>>”ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์”(ETL) เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ด้าน 3 โบรกเกอร์ ประสานเชียร์เป็นเบอร์ 1 ขนส่งข้ามพรมแดนของประเทศ ตัวเลือกใหม่ของหุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ พร้อมให้ประเมินราคาเป้าหมาย 2.30–2.62 บาท/หุ้น จากราคาขาย IPO 1.68 บาท/หุ้น

บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ (ETL) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สัญชาติไทยที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีธุรกิจหลัก คือ การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross-Border Transportation Carrier) อย่างครบวงจร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในแถบทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ภายใต้การบูรณาการรูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย ให้สามารถบริการขนส่งข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการขยายตัวของภาคธุรกิจ รวมถึงมุ่งเน้นต่อการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในแต่ละประเทศ โดยมีบริการ 2 รูปแบบ ได้แก่ (1.) การขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้ (Full Truck Load: FTL) การให้บริการขนส่งสินค้าแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ หรือเหมาทั้งตู้คอนเทนเนอร์ โดยสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของผู้ส่งหรือลูกค้าเพียงรายเดียว ให้บริการแบบ Door-to-Door และ (2.) การขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (Less than Truck Load: LTL) การให้บริการขนส่งสินค้าที่สินค้าในตู้คอนเทนเนอร์จะเป็นของลูกค้ามากกว่า 1 รายแบ่งใช้พื้นที่ร่วมกัน

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า ประเมินราคาเป้าหมาย ETL ที่ 2.62 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากการคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66-68 ที่คาดว่าจะทำได้ 62 ล้านบาท, 85 ล้านบาท, 110 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 24% ต่อปี จากแรงหนุนดีมานด์การขนส่งระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว,จีนเปิดประเทศมากขึ้น, แนวโน้มค่าระวางเรือขยับขึ้นเล็กน้อย ทำให้ผู้ส่งออกบางรายเปลี่ยนใช้การขนส่งทางถนน/ทางบกข้ามแดนแทน อีกทั้งแผนขยายไปกลุ่มสินค้า Cold Chain มากขึ้นซึ่งมีมาร์จิ้นสูง ประกอบกับเป็นการขนส่งที่มีประสิทธิภาพผ่านมาตรการบริหารจัดการ Backhaul

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินราคาเป้าหมาย ETL 2.30 บาทต่อหุ้น อ้างอิงจากการคาดการณ์กำไรสุทธิปกติของ ETL ในปี 67 ที่ 97 ล้านบาท และจำนวนหุ้นหลัง IPO ที่ 620 ล้านหุ้น ซึ่ง EPS ปี 67 ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น โดยประเมิน PER เหมาะสมที่ 14.55x โดยใช้ค่ากลาง(Median) ของบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำทั่วโลกที่มีธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนจำนวน 11 ราย โดยราคาเหมาะสมสิ้นปี 67 ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น เป็นระดับอนุรักษ์นิยม เนื่องจากหากนำแนวโน้มการเติบโตมาคิดคำนวณ อัตรา PEG Ratio สำหรับปี 67 จะอยู่ที่เพียง 0.45x ต่ำเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมขนส่งในประเทศไทย

พร้อมประเมินแนวโน้มผลประกอบการปี 66-68 คาดเติบโตเด่นจากแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งอ้างอิงวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุน IPO อาทิ การลงทุนในยานพาหนะ ตู้คอนเทนเนอร์และระบบการบริหารจัดการการขนส่ง คาดจะส่งผลให้ปริมาณการขนส่งของบริษัทในปี 66-68 จะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 6.99% หรือเติบโตจาก 1.59 หมื่นเที่ยวในปี 65 เป็น 1.82 หมื่นเที่ยวในปี 68 นอกจากนี้ คาด EBIT Margin จะเพิ่มขึ้นจาก 5.4% ในปี 65 เป็น 6.6%, 6.8% และ 7.0% ในปี 66-68 ตามลำดับ จากแผนขยายการบริการของการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LTL) และการขนส่งที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ (Cool Chain) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขนส่งแบบเต็มตู้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายของบริษัทเกินกว่า 90% มาจากค่าใช้จ่ายการบริหารซึ่งหรือค่าจ้างพนักงานซึ่งเป็นตัวแปรคงที่และไม่ได้ผันแปรตามรายได้

บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต มองมุมบวกต่อหุ้น ETL เพราะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) การอยู่ในกลุ่มโลจิสติกส์และการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนภายในภูมิภาค (CBS) ระหว่างจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ ETL 2) บริษัทให้บริการขนส่งในหลากหลายอุตสาหกรรม 3) หลังการเสนอขายหุ้น IPO ETL มีแผนเพิ่มบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิเพื่อจับตลาดส่งออกผลไม้ไทยที่กําลังเติบโต 4) คาดการณ์ EPS เติบโตเฉลี่ย 2 ปีที่ 20%

นอกจากนี้ ได้คาดกําไรสุทธิปี 66 จะเติบโต 2% เพราะเป็นช่วงลดสต็อกสินค้าของซัพพลายเออร์ กําไรในปี 67-69 จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 39% 16% และ 23% ตามลำดับ แต่ EPS (fully diluted) คาดลดลง 35% และ 8% ในปี 66-67 เพราะหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 42% ในปี 65 และ 37% ใน ส.ค. 67 และการเสนอขายหุ้น IPO ในไตรมาส 4/66 ด้วยปัจจัยหนุนกําไรคือการเปิดตัว CBS แบบควบคุมอุณหภูมิและการฟื้นตัวของ CBS สินค้าแห้งหลังการลดสต๊อกตั้งแต่ปี 68 โดยใช้วิธี DCF ประเมินมูลค่าหุ้น ETL ได้ที่ 1.7 พันล้านบาท คิดเป็น P/E ปี 67-68 ที่ 20 เท่า และ 18 เท่า เทียบกับ P/E ปี 67 ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น WICE และ III ที่ 15 เท่า และ 14 เท่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นระดับที่เหมาะสมเพราะ ETL ทำธุรกิจในส่วนที่มีการเติบโตสูง โดยคาด EPS ของ ETL เติบโตเฉลี่ยที่ 20% ใน 67-69