“SCB EIC”คาดส่งออกไตรมาส4ฟื้น สงครามอิสราเอลฯส่งผลจำกัด

HoonSmart.com>>ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองไตรมาส 4 ส่งออกไทยเริ่มฟื้นช่วยหนุนเศรษฐกิจ ผลกระทบโดยตรงจากสงครามอิสราเอลฯ ต่อไทยยังจำกัด คาดเงินบาทจะทยอยแข็งค่าต่อเนื่องบริเวณ 35-36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นปี 2566

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ออกบทวิเคราะห์ประจำเดือนต.ค.2566 ว่า เศรษฐกิจโลกในภาพรวมขยายตัวได้ในอัตราชะลอลง เป็นผลจากกิจกรรมภาคบริการที่เริ่มมีสัญญาณชะลอลง ขณะที่กิจกรรมภาคการผลิตยังหดตัวต่อเนื่อง นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 และต่อเนื่องในปีหน้า จากผล Lagged effect ของนโยบายการเงิน เงินออมส่วนเกินเริ่มหมด และหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น เศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 3 ทั้งในภาคบริการและการผลิต แต่จะยังคงเผชิญปัจจัยกดดันเชิงโครงสร้างในระยะปานกลาง-ยาว โดยต้องจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักเริ่มชะลอลงบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับสูง SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงจนถึงกลางปี 2024 ก่อนจะทยอยปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า มองไปข้างหน้า เศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน เช่น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่อาจยังไม่สิ้นสุด ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาเร่งตัวอีกครั้งจากสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์และภาวะเอลนีโญ

ด้านเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวต่อได้จากการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการเป็นหลัก ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียตะวันออก และยุโรป อย่างไรก็ดี การสูญเสียความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนบางส่วน และผลกระทบจากการยกระดับสงครามในอิสราเอลฯ ส่งผลให้การเร่งตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวลงกว่าที่คาด ขณะที่ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวไทยจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง อีกทั้ง การส่งออกสินค้าไทยที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวและคาดว่าจะกลับมาขยายตัวชัดเจนขึ้นในไตรมาส 4 จากราคาสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเอลนีโญ ราคาสินค้าส่งออกเกี่ยวกับพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงผลจากปัจจัยฐานต่ำ

ในกรณีฐาน สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์กระทบเศรษฐกิจไทยโดยตรงผ่านนักท่องเที่ยวต่างชาติและการส่งออกไม่มากนัก แต่หากสงครามนี้ขยายวงกว้างไปในภูมิภาคตะวันออกกลางอาจกระทบต่อศักยภาพการส่งออกและการลงทุนของไทยในภูมิภาคนี้ รวมถึงอาจกระทบแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลและประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ได้

SCB EIC คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะคงอยู่ที่ระดับ Neutral rate 2.5% ต่อเนื่องตลอดปีหน้า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวแล้ว และสอดคล้องกับเงินเฟ้อในระยะต่อไปมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงจะกลับเป็นบวกช่วยสร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว

สำหรับค่าเงินบาท สงครามในอิสราเอลส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกและราคาสินทรัพย์ปลอดภัยสูงขึ้น แต่ไม่กระทบค่าเงินบาทมากนัก เนื่องจากเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นจาก Fed dovish comments และเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลกลับเข้ามาในตลาดพันธบัตรไทย ในระยะต่อไป เงินบาทจะทยอยแข็งค่าต่อเนื่องได้จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และนโยบายการเงินของ Fed ที่จะตึงตัวน้อยลงส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐจะทยอยอ่อนค่าลงได้ โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 35-36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นปี 2566