“วิษณุ”แจงไทม์ไลน์เลือกตั้ง คาดได้นายกฯ-ครม.ใหม่มิ.ย.62

“วิษณุ” แจงกำหนดเลือกตั้ง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส.มีผลเดือนธ.ค.61 หากเลือกตั้ง 24 ก.พ.ตามกำหนด รู้ผล 24 เม.ย. และเปิดสภา 8 พ.ค. เห็นโฉมนายกฯ-ครม.ใหม่ภายเดือนมิ.ย.62

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมเตรียมการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการจัดการเลือกตั้ง ว่า ภายใต้ตามกรอบเวลาของกฎหมาย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.61 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะเริ่มมีผลบังคับใช้ หลังพ้นเวลา 90 วันที่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือ ภายในวันที่ 9 พ.ค.62 ซึ่งภายในเดือน ธ.ค.61 คาดว่าจะออกประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยกกต.จะยกร่างฯ เสนอให้ ครม. โดยเมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้วจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที

หลังจากนั้น กกต.จะออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง, กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง ภายใน 5 วัน ซึ่งจะสอดคล้องกับการปลดล็อคกิจกรรมทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งในช่วงเวลาที่ กตต.เปิดรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นั้น พรรคการเมืองจะต้องส่งรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่กำหนด

นายวิษณุ กล่าวว่า หากมีการเลือกตั้งมีขึ้นตามกำหนดในวันที่ 24 ก.พ.62 นั้น ในช่วงเดือน มี.ค.62 จะเป็นขั้นตอนที่ กกต.จะดำเนินการตรวจนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์, การให้ใบเหลือง-ใบแดง, การเลือกตั้งซ่อม แต่ต้องประกาศผลเลือกตั้งภายในวันที่ 24 เม.ย.62 หรือภายใน 60 วันนับจากเลือกตั้ง

หลังจากนั้นในช่วงเดือน พ.ค.62 คาดว่าภายในวันที่ 8 พ.ค.62 จะเปิดประชุมรัฐสภา หรือภายใน 15 วันนับแต่ประกาศผลเลือกตั้งทั้ง ส.ส.และส.ว.ชุดใหม่ ซึ่งก่อนหน้านั้น 1 วัน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะสิ้นสุดลง ซึ่งเมื่อเปิดประชุมรัฐสภาแล้วจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ต่อจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี , โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และตั้ง ครม.โดยเมื่อ ครม.ใหม่เข้าปฏิญาณตนแล้ว รัฐบาลเก่า และ คสช.ถือว่าสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ และในเดือน มิ.ย.62 ครม.ใหม่จะแถลงนโยบาย หรือภายใน 15 วันนับแต่ ครม.ปฏิญาณตน โดยคาดว่าจะมีขึ้นก่อนการประชุมอาเซียนซัมมิทในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย.62

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำหุ้น Election Play 2562 ได้แก่ PTT, PTTEP, BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, STEC, AMATA, SC, GOLD, PLA

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น EM จะเป็นบวกต่อหุ้น Big Cap โดยประเมินว่า PTT จะเป็นหุ้นหลักที่รองรับกระแสเงินทุนต่างชาติได้ดี

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ลงมามากใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีโอกาสฟื้นตัวกลับและเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำ “ซื้อ”