CGSI คาดหุ้นสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,430-1,450 จุด

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาด SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,430-1,450 จุด จับตา GDP ไทยไตรมาส 3/67 วันนี้

บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,430-1,450 จุด ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลด์ที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ปี 2567 ของไทยวันนี้ หลังตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ติดตามการประชุมครม. ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.) เกี่ยวกับความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นเพิ่มเติม อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 และ ประเด็นการเมืองในประเทศกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับ คำร้องยุบพรรคเพื่อไทยในวันที่ 22 พ.ย.

หุ้นแนะนำ SPRC อาจเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นของ CDU ในไตรมาส 4 ปี 2567 (157kbd ในไตรมาส 3 ปี 2567) เพราะ crack spread ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น คาดว่าค่าการกลั่น ตลาดของ SPRC จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในเดือนต.ค. และ 5.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล MTD ในเดือนพ.ย. 2567 (vs. 4.2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 3 ปี 2567)(Take profit : 7.10 / Stop loss : 5.30)

MTC คาดว่าบริษัทจะมี EPS เติบโตแข็งแกร่งในปี 2567-2569 และมีคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการสำรองหนี้สูญลดลง นอกจากนี้มองว่า P/BV ในปี 2568 ยังไม่สูงเกินไปเมื่อพิจารณาจาก ROE ที่คาดจะเพิ่มขึ้นในปี 2567-2569 (Take profit : 52.25 / Stop loss : 46.25)

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันศุกร์ (15 พ.ย.) หลังตลาดรับรู้ปัจจัยบวกจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปพอสมควรแล้ว และ ตลาดเปลี่ยนไปกังวลต่อการดำเนินงานรวมถึงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีของทรัมป์แทน ที่ล่าสุด เตรียมเสนอชื่อ Robert F. Kennedy Jr. ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีน เป็นรมว. สาธารณสุขสหรัฐ ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มเภสัชกรรม (Amgen -4.2%, Moderna -7.3%)

นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบชาตินิยมของทรัมป์ ที่ตลาดกังวลว่าอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความคิดเห็นของนายพาวว์เวล ประธานเฟดที่ระบุว่า เฟดไม่รีบร้อนที่จะลดดอกเบี้ยลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโต ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อการชะลอปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed

โดยล่าสุด CME FedWatch ระบุว่า ตลาดให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นที่ 42% ว่า Fed จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.

แนวโน้มที่ เฟดจะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวร่วงลงมากสุดในรอบ 3 ปี จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่า และ ราคาน้ำมันปิดลบกว่า 2% เนื่องจากหากมีการลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนอุปสงค์น้ำมันให้เพิ่มขึ้น

จากนี้ ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม เพื่อหาทิศทางที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. จากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย และ ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. (21 พ.ย.) และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ เดือนพ.ย. (22 พ.ย.)

สำหรับตลาดภูมิภาคอื่น ติดตาม 1) รายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของยูโรโซน (19 พ.ย.) และ อังกฤษ (20 พ.ย.) และ 2) การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน (20 พ.ย.)

 
———————————————————————————————————————————————————–