PTT กำไร 1.6 หมื่นลบ. Q3/67 วูบ 48% ธุรกิจปิโตร-การกลั่นฉุด ขาดทุนสต็อกน้ำมัน

HoonSmart.com>> ปตท. (PTT) เปิดกำไรไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 16,323 ล้านบาท วูบ 47.8% เหตุกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นผลการดำนินงานลดลง ธุรกิจการกลั่นขาดทุนสต๊อกน้ำมัน 20,000 ล้านบาท ฉุด EBITDA ลดลง 51.6% ด้านยอดขายอยู่ที่ 761,858 ล้านบาท ลดลง 5.1% ส่วนงวด 9 เดือน ปี 67 กำไร 80,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9%

บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรสุทธิ 16,323.62 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.57 บาท ลดลง 47.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 31,297.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.09 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2567 กำไรสุทธิ 80,760.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.83 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 79,258.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.77 บาท

บริษัทฯ ชี้แจงว่าในไตรมาส 3/2567 ปตท. และบริษัทย่อยมียอดขายจำนวน 761,858 ล้านบาท ลดลง 5.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 68,892 ล้านบาท ลดลง 73,400 ล้านบาท หรือ 51.6% จากไตรมาส 3 ปี 2566 ที่จำนวน 142,292 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีผลการดำเนินงานลดลง โดยธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานลดลง จากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งปตท.และบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 3/2567 ประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 3/2566 มีกำไรประมาณ 20,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ลดลงจาก 11.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/2566 เป็น 2.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในไตรมาส 3/2567 โดยหลักจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปส่วนใหญ่กับน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีผลการดำเนินงานลดลง จากการรับรู้ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น (Mark-to-market) ของสินค้าระหว่างการขนส่ง รวมทั้ง กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกมีผลการดำเนินงานลดลง ตามกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรและปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง

นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง จากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ตามต้นทุนขายเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากมีการเริ่มใช้นโยบาย Single Pool ในการคำนวณราคาก๊าซฯ ในปีนี้และปริมาณขายลดลง แม้ว่าราคาขายโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ปรับลดลง โดยหลักจาก บริษัท พีทีทีแอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) เนื่องจากมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 (LMPT2) ขณะที่ธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ และธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) มีก าไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับลดลงตามราคา Pool Gas นอกจากนี้ ธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ตามปริมาณการจองใช้ท่อส่งก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้น

ในงวดไตรมาส 3/2567 ปตท. และบริษัทย่อยมี กำไรสุทธิลดลง 14,973 ล้านบาท หรือ 47.8% จากไตรมาส 3/2566 ตาม EBITDA ที่ลดลง ประกอบกับในไตรมาส 3/2567 มีการรับรูร้ายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 9,500 ล้านบาท โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์จาก บริษัท พีทีทีอาซาฮีเคมิคอล จำกัด (PTTAC) ประมาณ 4,300 ล้านบาท และผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ในกลุ่มบริษัท Vencorex ของ บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล (GC) ประมาณ 3,800 ล้านบาท

ขณะที่ในไตรมาส 3/2566 มีการรับรู้ Non-recurring Items สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นกำไรประมาณ 40 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ของ GC แม้ว่ากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาษีเงินได้ลดลง

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2567 มียอดขาย 2,366,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

———————————————————————————————————————————————————–