HoonSmart.com>>” ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น”(ITC) ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้เป็นเติบโต 15-17% YoY จากเป้าเดิม 18-19% ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าเงินบาท พร้อมเพิ่มเป้ามาร์จิ้นขึ้นเป็น 26-28% จากเดิม 24-26% ส่วนแนวโน้มยอดขายไตรมาส 4 โตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากปัจจัยฤดูกาล และมาร์จิ้นลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/67 เหตุต้นทุนสูงขึ้น
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับลดเป้าหมายารเติบโตของยอดขายปีนี้ (2567) เติบโต 15-17% YoY จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้จะเติบโต 18-19% YoY เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าเงินบาท ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขึ้นเป็น 26-28% จากเป้าเดิม 24-26% ซึ่งปรับเพิ่มขึ้น 2% สอดรับกับผลดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2567 ที่แข็งแกร่ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย (SG&A to sales) คงเป้าไว้ที่ 8-9% และงบลงทุนปีนี้ประมาณ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ใช้ไปแล้วประมาณ 800 ล้านบาท
สำหรับยอดขายในไตรมาส 4 ปี 2567 คาดว่าจะเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ GPM จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยคาดว่ายอดขายและปริมาณขายในไตรมาส 4 จะเติบโตจากไตรมาสก่อน เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล แต่คาดว่าการเติบโตของยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจะชะลอตัวลงจากฐานสูงในปีที่แล้ว และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) ด้าน GPM คาดว่าจะต่ำกว่าไตรมาส 3/2567 จากต้นทุนที่สูงขึ้น ค่าเสื่อมราคา และมูลค่าการกลับรายการสำรองสินค้าคงคลัง อย่างไรก็ดี ยังคงดำเนินโครงการต่อเนื่องกับลูกค้ารายสำคัญ ขณะนี้ได้เป้าหมายแล้ว 95%
“เงินบาทที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หากมองฝั่งลูกค้า ก็จะสามารถเพิ่มวอลุ่มในการสั่งซื้อสินค้าได้ ซึ่งเราคาดหวังวอลุ่มจะดีขึ้น ส่วนถ้าเงินบาทแข็งค่าก็จะส่งผลทางอ้อม ซึ่งปัจจุบันยอดขายได้กลับมา สามารถทำยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้”
ทั้งนี้ ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกยังคงเติบโตตามแนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ตราสินค้าส่วนตัวกำลังได้รับความสนใจจากผู้บริโภคตามสถานการณ์เศรษฐกิจ และมีโอกาสสูงในการทำธุรกิจกับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกที่เน้นโภชนาการเพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงในปี 2568
นายพิชิตชัย กล่าวว่า หลัง”ทรัมป์”ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มีความเป็นห่วงกันเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐ ซึ่งตรงนี้จะต้องดูว่าสหรัฐตั้งกำแพงภาษีเพื่อใคร ถ้าเพื่อปกป้องธุรกิจในสหรัฐเอง มีการตั้งกำแพงภาษีกับทุกประเทศ ทุกคนก็อยู่ในพื้นฐานเดียวกัน แน่นอนว่าจะทำให้สินค้าแพงขึ้น ซึ่งผลกระทบไม่ได้เกิดขึ้นกับ ITC เพียงเจ้าเดียว
นายไชยวัฒน์ เจริญรุจิตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน ITC กล่าวว่า คลังสินค้า ASRS ที่จังหวัดสงขลา กำลังดำเนินการตามแผนและคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปลายปีหน้า (2568) โดยคลังสินค้านี้เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มระบบอัตโนมัติในคลังสินค้าของทั้งสองโรงงานภายในปี 2568 โดยเพิ่มจาก 48% เป็น 70% ซึ่งในเงินลงทุน 1.3 พันล้านบาท ในปี 2567-2568 และคืนทุน 8.4 ปี