HoonSmart.com>>กรุงเทพประกันภัย (BKI) เผยผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้ำชัดพอร์ตลงทุนแยกชัด เตรียมเงิน 600 ล้าน เก็บหุ้นแถว 1,300 จุด
บริษัทกรุงเทพประกันภัย (BKI) แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2566 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้าง ด้วยคะแนนเสียง 99.83% และมีมติอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียง 99.85% และอนุมัติการมอบอำนาจในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างให้แก่ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายด้วยคะแนนเสียง 99.83%
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BKI กล่าวว่า การปรับโครงสร้างบริษัทฯ โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทบีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) และถือหุ้น BKI 100% จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมยกระดับบริการให้เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและเป็นวงกว้าง ส่งผลดีต่อผู้บริโภค ด้วยการตั้งทีมบริหารที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละธุรกิจนำไปสู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านกลยุทธ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
“หลังจากมีการตั้ง BKIH พอร์ตลงทุน ก็จะมีการแยกกันบริหาร โดยพอร์ตลงทุนของ BKI จะลงทุนภายใต้กรอบของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ส่วนพอร์ตของ BKIH จะมีอิสระในการลงทุน มีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถที่จะไปลงทุนในหุ้นนอกตลาดที่มีศักยภาพสูงได้ แต่ BKI ต้องลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น และไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบของ คปภ. โดยจะมีคณะกรรมการลงทุนเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเงิน การที่โฮลดิ้งจะมีเงินก็ต้องระดมทุนใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีแผนระดมทุน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายชัย โสภณพนิช ายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของบริษัทมีเงินใหม่ที่พร้อมจะเข้าลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท โดยจะเข้าไปทยอยซื้อเมื่อดัชนีหุ้นไทยลงไปแถว ๆ 1,300 จุด ช่วงที่ผ่านมาก็มีการขายหุ้นบางตัวออกไปบ้าง เพราะมองแล้วว่าใน 3-5 ปีข้างหน้าจะยังไม่ฟื้นตัว แต่หุ้นหลักๆ ในพอร์ตส่วนใหญ่คือหุ้นธนาคารกรุงเทพ (BBL),โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) และ กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว ถึงแม้ว่าคปภ.จะกำหนดให้ลงทุนในหุ้นแต่ละตัวได้ไม่เกิน 30% แต่ปัจจุบันจะเกินเพราะมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้นตามราคาตลาด ซึ่งยังอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของคปภ.ที่ระบุว่าถ้าเป็นหุ้นที่ถือไว้ตั้งแต่แรกก็สามารถถือลงทุนต่อไปได้
สำหรับ เหตุผลที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น โดยราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก แนวโน้มตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาก็ไม่ดี จากการที่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะมีโอกาสขึ้นอีก ทำให้คนขายหุ้นแล้วไปซื้อพันธบัตรเพราะมีความปลอดภัยสูง ขณะที่ตลาดหุ้นไทย หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ราคาหุ้นก็มีการปรับลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล
“จะโทษรัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะปัจจัยเหล่านั้นอยู่นอกเหนือการควบคุม อย่างราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รัฐบาลจะนำเงินที่ไหนมาอุ้มหรือมาตรึงราคา และเรื่องหลายๆ อย่างรัฐบาลก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในความสามารถของรัฐ”นายชัย กล่าว
สำหรับ พอร์ตลงทุนของ BKI มีทั้งหมดประมาณ 33,000 ล้านบาท กว่า 70% เป็นหุนของโรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ รองลงมาเป็นหุ้นธนาคารกรุงเทพ หุ้นบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต