HoonSmart.com>>ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,448.90 จุด ลดลง 2.35 จุด กลุ่มพลังงานกดดันหลังราคาน้ำมันร่วงแรง ดูอ่อนแอกว่าตลาดเอเชียที่ฟื้นตัวขึ้นหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐมีลุ้นลงได้จากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐชะลอ แนวโน้มภาคบ่ายมีโอกาสี่จะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยมีแนวรับ 1,440 แนวต้าน 1,455 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 5 ต.ค..2566 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,448.90 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.16% มูลค่าการซื้อขาย 22,501.02 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,456.34 จุด และต่ำสุด 1,444.47 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ดูอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างฟื้นตัวขึ้น จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่เริ่มมองว่าน่าจะปรับตัวลงได้หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐออกมาชะลอตัวลง แต่ยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.)
ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้ไปฉุดดัชนีฯ อย่างไรก็ดี มองตลาดในระยะสั้นได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากพอควรแล้ว ทั้งที่หุ้นหลายกลุ่มไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอกประเทศ อาทิ กลุ่มการแพทย์คาดว่างบฯจะออกมาดี หุ้นขนาดกลางและเล็กบางตัวก็มีแนวโน้มที่งบฯจะไม่ชะลอตัว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ตลาดมีโอกาสี่จะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยมีแนวรับ 1,440 จุด แนวต้าน 1,455 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -2.42% มูลค่าซื้อขาย 1,378.67 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 27.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,316.66 ล้านบา
DELTA ปิดที่ 85.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ +2.09% มูลค่าซื้อขาย 979.45 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 68.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 707.55 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.49% มูลค่าซื้อขาย 607.42 ล้านบาท