JPARK เปิดเทรดวันแรกพุ่ง 28% เดินหน้าขยายอาคารหนุนรายได้

HoonSmart.com>>“เจนก้องไกล” แกร่งชนะตลาด เปิดเทรดวันแรกที่ 4.86 บาท พุ่งเหนือจอง 28 % ปิดที่ 4.66 จุดแจกกำไร 22.63% ปลื้มนักลงทุนตอบรับดี สะท้อนความมั่นใจพื้นฐานแข็งแกร่ง แผนการขยายธุรกิจชัดเจน หนุนรายได้เติบโต  กำไรโดดเด่น ฐานะการเงินแกร่ง

บริษัท เจนก้องไกล (JPARK) สอบผ่านฉลุย วันที่ 3 ต.ค. 2566 เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกที่ 4.86 บาท เพิ่มขึ้น 28 % จากราคาจองซื้อที่ 3.80 บาท ระหว่างวันขึ้นไปสูงสุดแตะ 5.35 บาท และลงไปต่ำสุดที่ 4.44 บาท ฟื้นขึ้นมาปิดที่ 4.66  บาท บวก 0.86 บาทหรือ +22.63% มูลค่าซื้อขาย 2,282.81 ล้านบาท สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ทรุดลงแรงถึง -1.51% ติดลบ 22.16 จุด ปิดที่ระดับ 1,447.30  จุด สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เจนก้องไกล (JPARK) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น JPARK   เปิดวันแรกที่ 4.86 บาท เพิ่มขึ้น 28 % ซึ่งเป็นการได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่จอดรถมามากกว่า 20 ปี สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละประเภทได้อย่างครบวงจร โดยหลังจากนี้บริษัทฯจะเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้ เพื่อเสริมศักยภาพ และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นายสุพล ค้าพลอยดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน  เปิดเผยว่า JPARK ได้รับการตอบรับที่ดี  สะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจของบริษัทฯ และนักลงทุนรับรู้ถึงปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มีศักยภาพ มีโครงสร้างรายได้ที่มีความมั่นคง และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีแผนในการขยายธุรกิจที่ชัดเจน สร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคตจะผลักดันให้สามารถขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสในการเติบโต ด้วยทีมงานที่มีความพร้อม และประสบการณ์ รวมถึงความเชี่ยวชาญในธุรกิจ โดยภายหลังจากการระดมทุน JPARK มีแผนที่จะลงทุนขยายโครงการอาคารจอดรถโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจำนวน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 532 คัน และรองรับรถจักรยานยนต์ได้ 72 คัน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 18,242 ตารางเมตร พื้นที่พาณิชย์ 2,049 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2567 รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายของบริษัท เจนก้องไกล เปิดเผยว่า มีความยินดีที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการกำหนดราคาที่มีความเหมาะสม จากลักษณะธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจบริหารพื้นที่จอดรถ และรับจ้างบริหารพื้นที่จอดรถ ประกอบกับความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 22-25% อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 11-12% รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนก้องไกล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งจากการให้การต้อนรับ และการสนับสนุนที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอเป็นวันแรก โดยเป็นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารพื้นที่จอดรถ โดยแบ่งเป็น 3 ธุรกิจหลักคือ 1.ธุรกิจให้บริการที่จอดรถ (Parking Service Business: PS) 2.ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Parking Management Service Business: PMS) และ 3.ธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ (Consultant and Installation Parking System Business: CIPS) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีช่องจอดภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด โดยมีทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน ซึ่งพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

“วันนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ JPARK เรามีความยินดี และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานหนักมาโดยตลอด และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯเองก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแบบนี้ตลอดไป และในฐานะผู้บริหารจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพ และสร้างเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในอนาคต” นายสันติพลกล่าว

ในขณะที่ผลประกอบการของ JPARK ในปี 2563-2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 286.17 ล้านบาท 243.61 ล้านบาท และ 455.09 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 6.51 ล้านบาท ขาดทุน 10.99 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.05 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในช่วงปี 2563 จนถึงกลางปี 2565 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown จากสถานการณ์ COVID-19 จึงส่งผลให้รายได้จากธุรกิจให้บริการที่จอดรถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปี 2565 เมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ และธุรกิจให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมในปี 2565 บริษัทมีรายได้ และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น