HoonSmart.com>> Finnomena Funds เจาะกลยุทธ์เดือนพ.ย. รับผลเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจทำตลาดผันผวน เน้น Selective หาจังหวะสะสมสำหรับลงทุนระยะยาว พร้อมคัด 11 กองทุนเด็ด เก็บเข้าพอร์ต ลงทุนหุ้นเวียดนาม, หุ้นเทค หุ้นพลังงานทั่วโลก หุ้นเกาหลีใต้ หุ้นเวียดนาม หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ ตราสารหนี้โลก-ตราสารหนี้เอเชีย ตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
Finnomena Funds อัปเดตมุมมองการลงทุนเดือนพ.ย.2567 (ข้อมูล ณ ณ วันที่ 5 พ.ย.) จากภาพรวมภาวะการลงทุนในช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าหุ้นกลุ่ม Emerging Market ปรับตัวลดลงแทบทั้งหมด หลัง Fund Flow ไหลออก Dollar Index กลับมาแข็งค่า ตรงกันข้ามกับหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา และกลุ่ม Magnificent-7 ที่ยังคงเป็นบวกได้ ซึ่งถูกหนุนด้วยการถูกปรับประมาณการกำไรที่ออกมาดูดี
ส่วน Bond Yield ก็ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยอายุ 3 เดือน อยู่ที่ 4.50% 2 ปี อยู่ที่ 4.21% และ 10 ปี อยู่ที่ 4.28% เป็นการเด้งขึ้นมาจากมุมมองเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น เพราะตลาดคิดว่ามีโอกาสสูงที่ Trump จะชนะเลือกตั้ง เกิดการใช้นโยบายขาดดุล
ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแกร่งกว่าคาด แต่ Valuation ปัจจุบันเริ่มตึงตัวแล้ว จึงแนะนำเน้นการ Selective และใช้จังหวะความผันผวนช่วงเลือกตั้งนี้ เข้าสะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว
สำหรับมุมมองการลงทุน FundTalk Call โดย “เจษฎา สุขทิศ” CEO Finnomena
“คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Contrarian Investor เน้นกลยุทธ์การลงทุนที่หาสินทรัพย์ที่ถูกทิ้ง จนราคาปรับตัวลงลึกมากจนเกินไป แต่ศักยภาพการเติบโตยังดี ประกอบกับมีลมหนุนที่ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นได้ ทำให้มีโอกาสได้เข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูก ตอนที่คนไม่เหลียวแล”
สำหรับกองทุนแนะนำ ได้แก่
1.) K-APB-A(A)
กองทุนตราสารหนี้เอเชีย กระจายลงทุนในหลากหลายประเทศ เช่น อินเดีย ฮ่องกง และอินโดนีเซีย ซึ่งสามารถให้ Yield ที่สูงกว่า 7.39% ในสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกเข้าสู่ช่วงขาลง และเข้าซื้อในจังหวะที่ Bond Yield ดีดตัวขึ้น
2.) DAOL-KOREAEQ
กองทุนหุ้นเกาหลีใต้แบบ Active Fund เป็นตลาดเอเชียที่มีโอกาสให้เข้าทยอยสะสม ด้วยมูลค่าที่ยังไม่แพง ช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวลงแรงกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงแข็งแกร่ง และเติบโตตามเทรนด์ของชิปเซมิคอนดักเตอร์
3.) KT-ENERGY
กองทุนหุ้นพลังงานทั่วโลก เน้นลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและขุดเจาะแหล่งน้ำมัน ซึ่งกำลังอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง โดยมีโมเมนตัมหนุนจากกระแส Trump Trade
ขณะที่มุมมองการลงทุน Mr.Messenger Call โดย “ชยนนท์ รักกาญจนันท์” Head Coach & Co-Founder Finnomena
“คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ Trend Follower Investor มุ่งสร้างโอกาสทำกำไรในระยะสั้น-กลาง เน้นใช้ปัจจัยทางเทคนิคจับจังหวะตลาด ศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ในอดีต โดยใช้หลักสถิติเพื่อนำมาคาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต และช่วยให้หาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม”
กองทุนแนะนำ ได้แก่
1.) ES-USBLUECHIP
กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นคัดเลือกบริษัทที่เติบโตทั้งรายได้ กำไร และกระแสเงินสด ตลอดจนมีความสามารถทางการแข่งขันสูง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อโอกาสการลงทุนตามเทรนด์ขาขึ้น รับการประกาศงบที่สดใสในไตรมาส 3
2.) SCBSEMI(A)
กองทุนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เป็นธีม Growth Stock ที่มีโอกาสทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ พร้อมการประกาศผลประกอบการหุ้นชิปอเมริกาที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คิด อาทิ Nvidia, Broadcom และ Qualcomm เป็นต้น
3.) ABGFIX-A และ TUSFIX
กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (Unhedged) มองเป็นจังหวะเก็งกำไร USDTHB ผ่านตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากทิศทางของค่าเงินบาทที่น่าจะกลับมาเกิน 34 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่มุมมองการลงทุน MEVT Call โดย “วศิน ปริธัญ” Head of Investment
“คำแนะนำการลงทุนในรูปแบบ The Long-Term Growth เพื่อสร้างโอกาสทำผลตอบแทนได้ดีในระยะกลาง-ยาว โดยพิจารณาปัจจัยรอบด้านตาม MEVT Framework ได้แก่ Macro ปัจจัยเชิงมหภาค, Earnings วิเคราะห์การเติบโตของกำไร, Valuation การวิเคราะห์มูลค่าของสินทรัพย์ที่ลงทุน และ Technical ปัจจัยอื่น ๆ เช่น Fund Flow, Sentiment, Seasonal Statistic และ Technical Analysis”
กองทุนแนะนำ ได้แก่
1.) PRINCIPAL VNEQ-A
กองทุนหุ้นเวียดนาม เป็นตลาดที่ถูกและดี ซึ่งมีปัจจัยหนุนให้เดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประกอบกับ Catalyst จากการเตรียมเข้าสู่ EM Market ของดัชนี FTSE ในปีหน้า
2.) B-INNOTECH
กองทุนหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดี ซึ่งเน้นการคัดเลือกหุ้น Value Play ตามปรัชญาของผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในการเข้าซื้อหุ้นเติบโตในราคาไม่แพง พร้อมรับอานิสงส์จากงบหุ้นบิ๊กเทคที่คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง
3.) UGIS-N และ KFSINCFX-A
กองทุนตราสารหนี้โลก เป็นจังหวะเก็บสะสมในช่วงที่ Bond Yield ดีดขึ้นมาในระยะสั้น เพื่อถือรับโอกาสในระยะยาว แม้จะมีความเสี่ยงจากนโยบายของ Trump แต่ก็เป็นกองทุน Active ที่ปรับ Duration ได้อย่างยืดหยุ่นตามสถานการณ์ตลาด