ดาวโจนส์ปิดบวก 116 จุด บอนด์ยีลด์อ่อนตัว รอข้อมูลเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 116 จุด หลังราคาน้ำมันดิบลดลง บอนด์ยีลด์อ่อนตัวลงจากนะดับสูงสุดรอบ 16 ปี ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.97 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก หลังร่วง 5 วันติด 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 28กันยายน 2566 ที่ 33,666.34 จุด เพิ่มขึ้น 116.07 จุด หรือ 0.35% แต่อ่อนตัวจากระดับสูงสุดของวันหลังจากราคาน้ำมันดิบลดลง และจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล่อนตัวลงจากระดับสูงสุดรอบ 16 ปี
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,299.70 จุด เพิ่มขึ้น 25.19 จุด, +0.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,201.28 จุด เพิ่มขึ้น 108.43 จุด, +0.83%

กลุ่มบริการสื่อสารเพิ่มขึ้น 1.2% นำโดยหุ้นเมตาแพลตฟอร์มที่บวก 2% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี S&P500 ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นหุ้นอินเทล และหุ้นซิสโกซิสเต็มส์ที่เพิ่มขึ้น 1.6% และ 1.3% ตามลำดับ
      
บรูซ ซาโร กรรมการผู้จัดการของ Granite Wealth Management กล่าวว่า นักลงทุนให้ความสำคัญกับน้ำมันดิบที่เป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ เมื่อราคาน้ำมันดิบลดลง นักลงทุนก็กลับมาซื้อหุ้น
      
ขณะเดียวกันแรงขายลดลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปี  โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี หลังข้อมูลเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ได้อ่อนตัวมาที่ 4.583% หลังจากนั้น
      
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาที่ 204,000 ราย แต่ต่ำกว่า 214,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด สะท้อนว่าการตกงานน้อยลง และไม่มีสัญญานการว่างงานเพิ่มขึ้น
      
นอกจากนี้ประมาณการครั้งใหม่สำหรับ GDP ไตรมาสที่ 2 ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.1%  ขณะที่
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนสิงหาคม ลดลง 7.1% สู่ระดับ 71.8 เมื่อเทียบรายเดือนและเมื่อเทียบรายปีลดลง 18.7%
      
นักลงทุนรอการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนสิงหาคม  ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญในวันศุกร์ และรอฟังความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ของเฟด
      
นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปี ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายปี
      
นายออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เป็นการ เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะหารือเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลาง เมื่อภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันหมดไป แต่การเปลี่ยนเป้าหมายเงินเฟ้อระหว่างที่ดึงเงินเฟ้อลงอาจมีความเสี่ยง
      
ด้าน นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในระหว่างการประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการเมื่อวานนี้ ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินหรือเศรษฐกิจ
      
นักลงทุนยังจับตาการเจรจาของสภาคองเกรสเกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวก่อนเส้นตายในวันที่ 1 ตุลาคม ที่หน่วยงานของรัฐบาลต้องชัตดาวน์
      
      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหลังจากลดลงติดกัน 5 วัน ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของเยอรมนีเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนกันยายน ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
      
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานบวก 2.2% นำโดยหุ้น Billerud AB ในสวีเดนที่เพิ่มขึ้น 5.0% หลังโบรกเกอร์ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น buy
      
ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนีเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 4.3%  จาก 4.5% ที่นักวิเคราะห์คาด
      
หุ้นTotalEnergies ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 1.1% แตะระดับสูงสุดหลังสรุปการขายกิจการให้
Petronas
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 448.50 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด, +0.36%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,601.85 จุด เพิ่มขึ้น 8.63 จุด, +0.11%
 ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,116.24 จุด เพิ่มขึ้น 44.45 จุด, +0.63%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,323.50 จุด เพิ่มขึ้น 106.05 จุด, +0.70%    

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 91.71  ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอ่อนตัวลงหลังจากแตะระดับ 95.03 ดอลลาร์  ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 95.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 97.69 ดอลลาร์ในระหว่างวัน