HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินตลาดยังรอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ประชุมเฟดสัปดาห์หน้า ด้าน GDP Q3/67 สหรัฐฯต่ำกว่าคาด ด้านตัวเลขจ้างงานสูง ดันบอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้นกระทบสินทรัพย์เสี่ยง แนวต้านดัชนี 1,460 จุด หากดัชนีปรับลงมายืนแถว 1,420 – 1,430 จุด เป็นระดับที่เพียงพอเข้าซื้อเก็งกำไร แนะทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก-ท่องเที่ยว-นิคม เก็งกำไร CPI, UVAN, APO จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับขึ้น หุ้นเด่นแนะ AOT, MEB
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินหากดัชนี SET ปรับลดลงมาที่บริเวณ 1,420 – 1,430 จุด (Forward P/E 15.5 – 15.6x) เป็นระดับที่เพียงพอเข้าซื้อเก็งกำไรหลังการรีบาวน์ระยะสั้น หลังตลาดทราบผลเลือกตั้งสหรัฐ, การประชุมเฟดสัปดาห์หน้า โดยมีแนวต้านที่ 1,460 จุด แนะนำทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว เช่น CPALL,CPAXT,AOT,AAV,BA คาดกำไร Q4/67 จะฟื้นตัวในช่วง High Season กลุ่มนิคม ฯ AMATA,WHA,ROJNA คาดได้ปัจจัยบวกจากการย้ายฐานการผลิตหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ส่วนเล่นเก็งกำไร CPI, UVAN, APO จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA -0.22%, S&P500 -0.33%, Nasdaq -0.56% ปรับลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มผลิตชิป นำโดยหุ้น SMCI -32.6% จากความกังวลต่องบการเงินบริษัท ส่วนรายงาน US GDP Q3/67 ครั้งที่ 1 +2.8% และคาด +3.0% & Q2/67 +3.0% QoQ และ ADP เผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ต.ค. เพิ่มขึ้น 233,000 และคาด 113,000 ตำแหน่ง เป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแรงดี
ขณะที่ Microsoft รายงานกำไร Q3/67 ดีกว่าคาด โดยได้ปัจจัยหนุนจากบริการ Cloud Services เติบโต +33% แต่ถูกยังกดดันจาก Capex เพิ่มขึ้น
ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม รายงานกำไรของ Apple, Amazon รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิในวันพฤหัส US. Core PCE ก.ย. และวันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ต.ค , อัตราว่างงานสหรัฐ ต.ค.ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของเฟดในวันที่ 7 พ.ย. และรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.
หุ้นเด่นแนะนำ AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67.00 บาท) แนวโน้ม 4Q66/67 (ก.ค.-ก.ย.67) คาดกำไรลดลง QoQ เนื่องจากเป็น low season และเริ่มรับรู้ผลกระทบจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่และผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ลดลงของ King Power แต่จะยังปรับตัวดีขึ้น YoY จากสถิติการบินที่ฟื้นตัว มองข้ามไปที่แนวโน้มผลประกอบการ 1Q67/68-2Q67/68 จะกลับมาฟื้นตัว QoQ, YoY เพราะเข้า High Season ท่องเที่ยว
ในปี 67/68 เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต +17%YoY ภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 135 ล้านคน เติบโต +13%YoY และจำนวนเที่ยวบิน 8.3 แสนเที่ยวบิน +13%YoY ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเปิด Runway 3 ในเดือน พ.ย.67
หุ้น MEB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 38.89 บาท) กำไรสุทธิงวด 1H67 +21%YoY ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามรายได้(+ 15%YoY) ที่ขยับขึ้นทั้งในส่วนของแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite สำหรับการดำเนินงาน 2H67 นี้ คาดว่าจะยังคงสดใส YoY ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4Q67 มีแรงหนุนจากการออกหนังสือใหม่รับสัปดาห์หนังสือแห่งชาติช่วงต.ค.
ด้าน MEB เองวางเป้ารายได้ปี67 จะโตราว +10-15%YoY และช่วงถัดไป มีแผนสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในตปท. โดยใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เน้นประเทศในเอเชียเป็นหลัก ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรสุทธิปี67 และ ปี68 ของ MEB* ที่ 453 ลบ.(+17%YoY) และ 522 ลบ.(+15%YoY)