ตลท.รับ SAV เข้าเทรด 26 ก.ย.นี้ ราคา IPO 19 บาท

HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯรับ หุ้น “สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์” (SAV) เข้าซื้อขายวันแรก 26 ก.ย.66 หมวดธุรกิจ “ขนส่งและโลจิสติกส์” ขาย IPO ราคา 19 บาท/หุ้น  ด้านผลงานปี 65  กำไรสุทธิ 199.55 ล้านบาทพลิกจากขาดทุนสุทธิ 74.35 ล้านบาทปีก่อน รวม 6 เดือนปีนี้กำไร 114 ล้านบาท พุ่งถึง 147%เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 46.09 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV)เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์  ในวันที่ 26 ก.ย. 2566

SAV เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทสามารถ (SAMART) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ปัจจุบันถือหุ้น 100% ในบริษัท Cambodia Air Traffic Services หรือ ”CATS” ซึ่งจัดตั้งและจดทะเบียนในประเทศกัมพูชา ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาแต่เพียงรายเดียวตามสัญญาสัมปทานจำนวน 49 ปี (ปี 2545 -2594) ให้บริการครอบคลุมสนามบินทุกแห่งและเส้นทางการบินในเขตน่านฟ้าทั้งหมดของประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติสีหนุ และสนามบินนานาชาติเสียมเรียบ

สนามบินในประเทศ 3 แห่ง ได้แก่ สนามบินสตึงแตรง สนามบินพระตะบองและสนามบินเกาะกง เส้นทางการบินระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง และเส้นทางการบินในประเทศ 20 เส้นทาง โดยเป็นการให้บริการเป็นแบบครบวงจร ประกอบด้วย 1) การจัดการจราจรทางอากาศและการจัดการน่านฟ้า 2) การสื่อสารการเดินอากาศและการติดตามอากาศยาน 3) ข้อมูลการบิน และ 4) การออกแบบแผนการบินและแผนที่การเดินอากาศ เพื่อให้การจราจรทางอากาศบริเวณท่าอากาศยานทุกแห่งและเส้นทางบินในเขตน่านฟ้ากัมพูชามีความคล่องตัว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO

SAV มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 320 ล้านบาท จำนวน 640 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 166 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 64 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง รวมจำนวน 102 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการะคุณและกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท สามารถ ระหว่างวันที่ 13-20 ก.ย.2566 ในราคาหุ้นละ 19 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่จำนวน 1,216 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 12,160 ล้านบาท โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส  และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม

นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการขยายบริการในสนามบินใหม่อีก 3 แห่ง ที่เตรียมเปิดให้บริการภายในปี 2567 ตามนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา ช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ และต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพบริการระดับสากล

SAV มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่กลุ่มบริษัทสามารถ คอร์เปอเรชั่น (SAMART) โดยถือผ่าน บริษัท สามารถ ยู-ทรานส์  ถือหุ้น 60 % บริษัท สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง  ถือหุ้น 14.06 % ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า  50% ของกำไรสุทธิ  อย่างไรก็ตามการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน และการขยายธุรกิจของบริษัทฯ รวมทั้งความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต

ด้านผลการดำเนินงานของ SAV ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 199.55 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.346 บาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 74.35 ล้านบาทหรือ ขาดทุนหุ้นละ 0.129 บาทในปี 2564

ส่วนผลงานในปี 2566 รวม 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 114 ล้านบาทหรือ 0.198 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 147%เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 46.09 ล้านบาทหรือ 0.08 บาทต่อหุ้น รายได้ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการจำนวน 709.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 304.72 ล้านบาทหรือ 75.33%เทียบกับจำนวน 404.50 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินในทุกประเภท ขณะที่ต้นทุนบริการกลับลดลง 13.73 ล้านบาทคิดเป็น 3.88% จากการบันทึกต้นทุนตามสัญญาสัมปทาน ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 369.31 ล้านบาท คิดเป็น 34.01% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีจำนวน 34.01%

ส่วนไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไรสุทธิ 83.33 ล้านบาทหรือ 0.145 บาท เพิ่มขึ้นเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 43.26 ล้านบาทหรือ 0.075 บาทต่อหุ้น