บล.กสิกรฯ ลุ้นหุ้น 1,485-1,560 จับตากนง.-ส่งออกส.ค.สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้น้ำหนักในประเทศชี้นำหุ้น ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. -กนง.ประชุม 27 ก.ย.ขึ้นหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย-ฟันด์โฟลว์  ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหว 35.70-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ  จากสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 36.34  

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ย.) ว่าดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,550 และ 1,560 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (27 ก.ย.) ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และประเด็นเรื่องการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 (final) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน

ดัชนีหุ้นฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นร่วงลงแรงตั้งแต่ช่วงต้น-กลางสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศท่ามกลางปัจจัยลบ อาทิ ข่าวบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของจีนยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ อีกราย ความกังวลว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ตลอดจนแรงขายต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดีหุ้นฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์หลังตอบรับปัจจัยลบข้างต้นไปพอสมควร อนึ่งหุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงลงสวนทางตลาด ในช่วงปลายสัปดาห์ หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของหุ้นธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง

ในวันศุกร์ที่ 22 ก.ย.2566 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,522.59 จุด ลดลง 1.26% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,970.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.24%  ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.80% มาปิดที่ระดับ 471.50 จุด

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 35.70-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 36.00 ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 36.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นทั้งในช่วงก่อนและหลังการประชุมเฟด โดยมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดที่เปลี่ยนแปลงไปใน dot plot ซึ่งบ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับทบทวนขึ้น สะท้อนสัญญาณคุมเข้มต่อเนื่องของเฟด แม้ในการประชุมรอบนี้ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 5.25-5.50% และเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ไว้ตามเดิมก็ตาม

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ยังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการออกพันธบัตรรัฐบาลของไทยที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในปีงบประมาณหน้า อย่างไรก็ดีเงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยอาจเป็นการปรับโพสิชันของตลาดก่อนการประชุม กนง. ในวันที่ 27 ก.ย. นี้

ในวันศุกร์ที่ 22 ก.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ก.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. ขายหุ้นสุทธิ 6,606 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 5,701 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 5,208 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 493 ล้านบาท)