HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 0.20% หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 3.7% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.6% นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดเฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค. แต่จะปรับขึ้นในเดือนพ.ย. หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นหนุนดัชนี Nasdaq บวก 39.97 จุด ด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดบวก
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบในวันพุธ (13 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนส.ค. ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,575.53 จุด ลดลง 70.46 จุด หรือ -0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,467.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,813.59 จุด เพิ่มขึ้น 39.97 จุด หรือ +0.29%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนส.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.
คอนราด เดควาดรอส นักวิเคราะห์จากบริษัท Brean Capital กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่เกิดจากภาคบริการ (services inflation) นั้น ทำให้นักลงทุนไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 97% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ แต่ให้น้ำหนักเพียง 61% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.
หุ้น 3M ดิ่งลง 5.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นของ 30 บริษัทที่คำนวณในดัชนีดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ร่วงลงกว่า 2%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยหุ้นเทสลา, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์, หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอะเมซอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
แต่หุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 1.2% ปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากบริษัทเปิดตัว iPhone 15 Series จำนวน 4 รุ่น แต่ไม่มีการประกาศปรับขึ้นราคา
หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.66% หลังจากนางเจน เฟรเซอร์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป ประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ รวมถึงการปลดพนักงานบางส่วน เพื่อความคล่องตัวในการตัดสินใจและการบริหารงาน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และฮ่องกง