MTC จับมือ “DEG-SMBC” จัดเงินกู้ให้รายย่อย 5,300 ลบ.

HoonSmart.com>>บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ลงนามรับการสนับสนุนทางการเงินจากบริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (DEG) ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงก์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) จำนวน 5,300 ล้านบาท เตรียมปล่อยกู้ลูกค้ารายย่อย ดันพอร์ตสินเชื่อปีนี้เข้าเป้า 20%

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามรับการสนับสนุนทางการเงินภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 5,300 ล้านบาท จากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก 2 แห่ง ประกอบด้วยบริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (DEG – Deutsche Investitions- und Entwicklungsgesellschaft mbH) และ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ การได้รับสนับสนุนเงินทุนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นต่อแนวคิดการบริหารธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนของบริษัทฯ รวมทั้งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานทุน MTC เพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ความสามารถในการแข่งขัน ให้มีความพร้อมในการมอบโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่กลุ่มลูกค้าฐานรากได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งกลุ่มเกษตรกร, กลุ่มอาชีพอิสระ หรือกลุ่มประชาชนรับจ้างทั่วไป ด้วยอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรม ตอกย้ำถึงการเป็นผู้ให้บริการในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย (Microfinance) ที่มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลากว่า 30 ปี

“การสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจทั้ง 2 รายในครั้งนี้ จะส่งผลให้ MTC สามารถสานต่อการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในทุกมิติ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายความยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) เพื่อขจัดความยากจน สร้างโอกาสทางการเงินของผู้ประกอบอาชีพรายย่อย พัฒนาการเป็นอยู่ที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเป็นสุขและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยวงเงินทั้งหมด บริษัทฯได้ดำเนินการปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว” นายปริทัศน์ กล่าว

นายปริทัศน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2566 ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดี ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และบรรยากาศทางการเมืองที่ชัดเจนและเดินหน้าต่อไปได้ ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ขยายตัวในทิศทางเดียวกัน คาดว่าจะสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อรวมในปี 2566 ของ MTC เติบโตไม่น้อยกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจสินเชื่อธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์, รถยนต์ และสินเชื่อโฉนดที่ดิน ทีสัดส่วนมากกว่า 80% ส่วนที่เหลือมาจากการปล่อยสินเชื่ออื่น ๆ

ทั้งนี้ MTC ยังคงมุ่งมั่นต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นดำเนินงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยได้รับการรับรองผลการประเมิน ESG MSCI Index ในปี 2566 ที่ระดับ AA ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Customer Finance)