YLG ชี้ทองขาขึ้นอีก 2 ปี อยากซื้อรอย่อ เปิดสถิติ 8 ปีกำไรสูงลิ่ว124% ออมทุกเดือนได้ 63%

HoonSmart.com>>”วายแอลจี”เปิดสถิติลงทุนทองจากปี 59 หากถือยาว Buy and Hold ได้ผลตอบแทนสูงถึง 124% สายออมทองทุกเดือน ยังได้ดี 63% ทางเลือกใหม่ออมยอดฮิต ไม่ได้รับผลกระทบดอกเบี้ยขาลง มองเทรนด์ราคายังไปได้อีกอย่างน้อย 2 ปี หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2%  ดอลลาร์สหรัฐให้ผลตอบแทนน้อยลงแนะนักลงทุนยังมีโอกาสทยอยเข้าซื้อรอย่อแถว 2,600 – 2,620 ดอลลาร์ อาจเห็นย่อรอบใหญ่ 2,350 ดอลลาร์ ส่วนราคาในไทยรอซื้อ  39,000 บาท 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) กล่าวว่า บริการออมทองได้รับความสนใจอย่างมากในปี 2567 ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดทองคำที่คึกคัก ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตลาดทั้งปี ทั้งนี้การออมทองเริ่มได้รับความสนใจในวงกว้างเมื่อปี 2559 พร้อม ๆ กับการพัฒนาของโลกดิจิทัล ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนทองคำได้ในหน่วยย่อย ที่เริ่มตั้งแต่การใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ทั้งลงทุนด้วยตัวเองและแบบตัดระบบอัตโนมัติรายเดือนถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) จึงเป็นทางเลือกให้คนหันมาออมผ่านทองคำแทนการฝากเงิน ทั้งทองไทย และทองคำโลก และยังสามารถถอนออกมาเป็นทองคำหรือขายเป็นเงินสดได้ จึงเป็นการลงทุนที่สะดวก รวดเร็ว

สำหรับการลงทุนแบบการออมทองนั้น หากนักลงทุนที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2559 ที่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อ ออนซ์ หากออมทองทุกเดือนจนถึงปัจจุบันจะได้รับผลตอบแทนรวม 63% หรือหากถือยาว Buy and Hold ก็จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 124% โดยคำนวนจากราคาปัจจุบันที่ทองคำอยู่ที่ประมาณ 2,650 ดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับการฝากเงิน

ปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มาจากนโยบายการเงินของสหรัฐ โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ที่ล่าสุดเดือน ก.ย. ปรับลดไปแล้ว 0.50% และมีแนวโน้มว่าอีกภายใน 2 ปี อาจจะลดอีก 2% ก จึงเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาถือครองทองคำ ทิ้งดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การออมทองไม่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยที่ปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าปัจจุบันราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปสูงมากเข้าใกล้ราคาเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ที่ 2,700 – 2,750 ดอลลาร์สหรัฐ แต่นักลงทุนที่ต้องการเข้าลงทุนเพื่อทำกำไรยังมีโอกาสเข้าไปได้ เนื่องจากปกติทองคำอาจจะย่อแรงก่อนที่จะเข้าถึงเป้าหมายอย่างน้อยหนึ่งครั้ง รวมถึงทองคำจะปรับขึ้นแบบสลับย่อตัว จึงมีจุดที่น่าทยอยเข้าหากทองคำปรับลดลงมาที่ 2,600, 2,610 และ 2,620 ดอลลาร์สหรัฐ และถ้าทองคำขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ  หรือมากกว่านั้น แถวๆ 2,750 ดอลลาร์สหรัฐ  หลังจากนั้น มีโอกาสที่อาจได้เห็นปรับฐานในรอบใหญ่ลงมาถึง 2,350 -2,380 ดอลลาร์สหรัฐ วนทองในประเทศอาจจะหลุด 40,000 บาท  ไปที่ระดับ 38,000 – 39,000 บาท จุดนั้นเป็นจุดที่เหมาะกับการเข้าซื้ออีกครั้ง

สำหรับลงทุนสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่เปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือ LINE : @ylggetgold โทร. 0-2678-9888 #2