‘กองทุนวายุภักษ์’ เริ่มทยอยซื้อหุ้น จ่ายปันผลครั้งแรกไม่ต่ำกว่า 3% รับเงินก.พ.68

HoonSmart.com>>”กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง” เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันแรกสอบผ่าน เปิดและปิดที่ 10.10 บาท แจกผลตอบแทน 1%  “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯและรมว.คลังเชื่อดีกับทุกฝ่าย เศรษฐกิจไทยโตดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงและตลาดหุ้นเข้ามาไทย  กองทุนวายุภักษ์ฯเริ่มทยอยซื้อหุ้นตั้งแต่ต.ค. นโยบายเลือกหุ้นทำตามสัญญากับผู้ถือหน่วย  พร้อมจ่ายปันผลครั้งแรกไม่ต่ำกว่า 3% รับเงินก.พ.68 บลจ.กรุงไทยมองตลาดหุ้นระยะกลางถึงปี 68 ยังลงทุนได้

กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ถือฤกษ์นำหน่วยลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันแรก (7 ต.ค.2567)  ราคาเปิดและปิดที่ 10.10 บาท สูงกว่า 1% เทียบกับ IPO ที่ 10 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 10.20 บาท และต่ำสุด 10 บาท

นายพิชัย ชุณหวชิร  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้วางแนวทางการระดมทุนผ่านหน่วยลงทุนประเภท ก.ของกองทุนรวม วายุภักษ์  หนึ่ง ซึ่งเป็น WIN WIN solution ทั้งตลาดและนักลงทุน เสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ   การนำหน่วยลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหนึ่งในการทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่สนใจ โดยเชื่อมั่นว่ากองทุนวายุภักษ์หนึ่ง จะมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน

ปัจจุบันตลาดหุ้นดีขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจและจะมีเม็ดเงินลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงการลงทุนโดยตรง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้ยังมีเงินที่ออกไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้กลับมาด้วย  ปัญหาความเชื่อมั่นที่เคยเกิดขึ้นเริ่มเบาบางลง กำลังดูว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมได้ เช่นให้ก.ล.ต.เพิ่มความเข้มงวด และตลาดหลักทรัพย์เพิ่มการคัดสรรหุ้นที่ดีอยู่ในเทรนด์ที่นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจ และมี ESG ที่ดีด้วย

” ความรู้สึกของนักลงทุนเปลี่ยนไปมาก ฝากดูนักลงทุนในประเทศที่มีการลงทุนมาก เศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงในภูมิภาคเอเชียและอาเซียนดีขึ้น น่าจะมีเม็ดเงินลงุทนไหลเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยลดลง กลไกทั่วไปจะมีเงินหันกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น”นายพิชัยกล่าว

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) เปิดเผยว่า กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) ได้เริ่มทยอยลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. โดยใช้นโยบายในการเลือกหุ้นตามที่สัญญากับผู้ลงทุน ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีและธรรมาภิบาล การกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้น รวมถึงผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

“ขอย้ำว่ากองทุนจะค่อยๆ ทยอยลงทุนตามความเหมาะสมของสภาวะตลาด ซึ่งกองทุนวายุภักษ์ระยะเวลาลงทุน 10 ปี ผู้จัดการกองทุนจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้กองทุนส่งมอบผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนตามที่สัญญาได้ ซึ่งบลจ.กรุงไทย ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนจะพยายามทำให้ดีที่สุดในการรักษาผลตอบแทนของผู้ถือหน่วยลงทุนก.และข.”นางชวินดา กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน ตอบรับปัจจัยทั้งภายในภายนอก sentiment อยู่ในทางที่ดีขึ้น จากดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงและจีนมีนโยบายช่วยสนับสนุนการลงทุน ขณะที่ปัจจัยในประเทศ การเมืองนิ่ง ทิศทางเศรษฐกิจไปได้ การท่องเที่ยหนุน จึงเชื่อว่าจากนี้ไปตลาดอยู่ในภาวะที่เหมาะสมกับการลงทุน

“เรามองตลาดหุ้นไทยในระยะปานกลางถึงปีหน้ายังลงทุนได้ ซึ่งตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมานี้ไม่ใช่แค่มาจากกองทุนวายุภักษ์ แต่มาจากหลายปัจจัยสนับสนุน ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นมาจากโมเมนตั้มที่ดีขึ้น เราเชื่อว่าจากนี้ไปจะช่วยให้ตลาดมีสีสรร และมีความน่าสนใจในการลงทุนสำหรับคนไทยและต่างประเทศ ขณะเดียวกันเม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ที่เป็นเม็ดเงินใหม่จะเป็น Buffer ยามเมื่อตลาดปรับตัวลง”นางชวินดา กล่าว

นอกจากนี้กองทุน VAYU1 เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในงวดสิ้นปี 2567 นี้ (ระยะเวลาตั้งแต่วันจดทะเบียน 30 ก.ย.2567 ถึงสิ้นเดือนธ.ค.2567) ซึ่งคาดว่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลช่วงเดือน ก.พ.2568 คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 3%

ทั้งนี้ กองทุน VAYU1 จะมีการจ่ายเงินปันผลย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง (ปิดงวดเดือนมิ.ย.และธ.ค.) ตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุน อยู่ในช่วง 3-9% ต่อปี ตลอดระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี รวมถึงการมีกลไกการคุ้มครองผลตอบแทนและเงินลงทุนแก่หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งหากปีไหนมีผลตอบแทนเกิน 9% ต่อปี ส่วนที่เกิน 9% จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.

ด้านนายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า บลจ.เอ็มเอฟซีและบลจ.กรุงไทย จะทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุน VAYU1 โดยนำเงินไปลงทุนตามวัตถุประสงค์และนโยบายที่กำหนด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งประเภทก.และข.

“การบริหารจัดการกองทุนเรามองระยะยาว จึงประเมินกรอบการลงทุน หุ้นรายตัวและจังหวะลงทุน ในช่วงที่ตลาดน่าสนใจเราก็เข้าลงทุน”นายธนโชติ กล่าว