JKN ชี้ต้นเหตุฝืด ตลาด’บอนด์-แบงก์’บอด แนะทางรอดธุรกิจหันพึ่งพาเงินทุนยาว

HoonSmart.com>>”เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป”(JKN) ออกโรงแจงหุ้นกู้ JKN239A ต้องเลื่อนชำระบางส่วน เกิดจาก Liquidity Mismatch ต้นเหตุจากนำเงินทุนระยะสั้น อายุ 1-2 ปี มาใช้ในธุรกิจ ยันสร้าง 24 แบรนด์ ecosystem ครบ หยุดลงทุนแล้ว ยืนยันจะจ่ายหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ย บริษัทยังมีเงินสดหลายร้อยล้าน แต่ต้องใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชี้ทางรอด เปลี่ยนเงินทุนเป็นระยะยาว เปิดทาง PP ร่วมทุน-ร่วมทำงาน ล่าสุดหุ้น JKN ติดฟลอร์ 30%

คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN)  เปิดแถลงข่าวถึงกรณีหุ้นกู้รุ่น JKN239A ที่บริษัทจะแบ่งชำระให้ผู้ถือหุ้นกู้วันนี้ (1ก.ย.2566) จำนวน 156 ล้านบาทก่อน ส่วนที่เหลือเลื่อนชำระออกไป ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับดอกเบี้ยด้วยจนกว่าจะได้เงินต้นทั้งหมด โดยทางบล.เอเชีย พล้ส จะติดต่อผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันที่ 11 ก.ย.นี้  และจะประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 29 ก.ย. เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้พิจารณาอนุมัติแผนการชำระเงินต้น และดอกเบี้ยหุ้นกู้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิ รวมถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง และการขอผ่อนผันให้การผิดนัดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ และไม่เรียกชำระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน(Call Default)

” สิ่งที่เกิดขึ้นกับ JKN เป็นผลจากการเกิด Liquidity Mismatch  เพราะทำธุรกิจครอบจักรวาล ทั้งระดับ Global และในประเทศ  เราเข้าตลาดหุ้นมาระดมเงินเพียง 1,100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมีการลงทุนสร้างแบรนด์ถึง 24 แบรนด์ ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมอีกแล้ว มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1  หมื่นล้านบาท  แต่นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เจอภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้คนไม่กล้าจับจ่าย พอกลางปีมาเจอเรื่องของบริษัทใหญ่ ทำให้ตลาดบอนด์และแบงก์บอด  ไม่มีใครกล้าปล่อยกู้ หรือไม่กล้าซื้อหุ้นกู้  ซึ่งเกิดกับผู้ประกอบการหลายเจ้า ต่อมาเลือกตั้งแล้วยังไม่มีรัฐบาลมาเกือบ 3 เดือน ทำให้เงินลงทุนต่างชาติถอนไปหมด วอลุ่มในตลาดหุ้นเพิ่งจะเริ่มกลับมา หากตลาดหุ้นไทยไม่มีเงินต่างชาตติก็จะแห้งถึงเกือบแห้งสนิทเลย ท่ามกลางการต่อสู้วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ เราต้องกล้าออกมาพูด เราเสียใจที่ทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ได้รับผลกระทบ แต่เราทำงานอย่างซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมาผู้ประกอบการพูดเหมือนกัน ทำไมเหนื่อยจัง กับมรสุมในปีนี้”

คุณจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า  บริษัทมีวิสัยทัศน์ยาวไกล แต่กลับใช้แหล่งเงินทุนระยะสั้นมาใช้กับการลงทุนระยะยาว  ส่งผลให้เกิดการเลื่อนชำระหุ้นกู้ JKN239A บางส่วน ตอนนี้บริษัทอยากได้แหล่งเงินทุน ที่เป็นระยะยาว  ไม่ใช่การออกหุ้นกู้ อายุ 1 ปี 6 เดือนถึง 2 ปี  เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ทาง Exim Bank ได้ติดต่อบริษัทเป็นเจ้าแรกที่จะช่วยเหลือ ก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง

“เงินสดของบริษัทยังมีอยู่หลายร้อยล้าน แต่ต้องนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน  ทำให้ต้องมีแหล่งเงินทุนใหม่มาเสริม ซึ่งตอนนี้ต้องเปลี่ยนจากจากระยะสั้น เป็นระยะยาว จะให้ดีไปอีกต้องมีการเพิ่มทุนขาย PP (นักลงทุนเฉพาะเจาะจง) เข้ามาด้วย แต่คนที่จะเข้ามาจะมาใส่เงินอย่างเดียวก็ไม่อยากได้ จะต้องมีคอนเน็กชั่น เราต้องการให้เข้ามาทำงานจักรวาลร่วมกัน พาให้รวยไปด้วยกัน ถ้าทำได้สามารถจ่ายอัตราผลตอบแทนปันผลที่ดี และราคาหุ้นบนกระดานก็ดีขึ้นด้วย  ”

สำหรับผลงานในครึ่งหลังปี 2566 คุณจักรพงษ์ กล่าวว่า สองไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1-2 ปี 2566) กำไรหลักมี 100 ล้านบาทแล้ว  รายได้เกือบ 2,000  ล้านบาท ซึ่งธุรกิจจะเคลื่อนไหวไปได้ด้วยตัวเอง

ทั้งนี้  JKN ขอชำระคืนหุ้นกู้รุ่น JKN239A วันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ 1 ก.ย. 66 จำนวนเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 609,981,369.86 บาท ไม่เต็มจำนวน โดยจะชำระคืนเงินต้นบางส่วน 148.05 ล้านบาท และดอกเบี้ยจำนวน 9.98 ล้านบาท รวม 158.03  ล้านบาท ในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ (1 ก.ย. 66) โดยคงเหลือยอดค้างชำระจำนวน 451.95 ล้านบาท บริษัทฯจะขอมติผู้ถือหุ้นกู้โดยการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อขอเลื่อนกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยโดยเร็วที่สุด

ภายหลังคุณจักรพงษ์แถลงข่าว หุ้น JKN เปิดซื้อขายในภาคบ่าย มีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จนราคาร่วงติดฟลอร์ 30% มาที่ 1.19 บาท ลดลง 0.51 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น  ราคาปรับตัวลงแรงต่อเนื่องจากวานนี้ (31 ส.ค.) หุ้น JKN ปิดร่วง 28.57% มาที่ 1.70 บาท ลดลง 0.68 บาท