กลุ่มพลังงานเดี้ยง หวั่นกำไรกระทบจากลดค่าไฟ-น้ำมันดีเซล

HoonSmart.com>>หุ้น BGRIM-SPRC-GPSC-BCP-TOP นำดิ่งกลุ่มพลังงาน รับ Sentiment ลบจากนายกฯเตรียมเสนอแนวทางลดค่าไฟ-ราคาน้ำมันดีเซล กังวลจะกระทบอัตรากำไร

เมื่อเวลา 11.16 น.หุ้น BGRIM ลบ 3.50% มาที่ 34.50 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 267.66 ล้านบาท
หุ้น SPRC ลบ 3.19% มาที่ 9.10 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 187.19 ล้านบาท
หุ้น GPSC ลบ 2.78% มาที่ 52.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 268.29 ล้านบาท
หุ้น BCP ลบ 2.53% มาที่ 38.50 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 173.21 ล้านบาท
หุ้น TOP ลบ 2.36% มาที่ 51.75 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 827.07 ล้านบาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองประเด็นที่นายกฯ เตรียมนำเสนอแนวทางการลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซล เป็น Negative เชิง sentiment ต่อทั้งกลุ่มพลังงานฯ และโรงไฟฟ้า จากตลาดอาจกังวลต่อผลกระทบอัตรากำไร แต่ในเชิงพื้นฐานเยังไม่ให้น้ำหนัก Downside

กลุ่มโรงไฟฟ้า ผู้ได้รับ sentiment ลบ คือ GPSC และ BGRIM จากประเด็นแนวทางลดค่าไฟฟ้า โดยขยายเวลาชำระคืนหนี้ EGAT อาจส่งให้ตลาดกังวลว่าการฟื้นของอัตรากำไรขายไฟฟ้าลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) จะล่าช้า หรือ worst case คือแย่ลงหากภาครัฐปรับ ft มากกว่าการเปลี่ยนแปลงของราคาพลังงาน เช่น ปรับ Ft ลงมากกว่าราคาพลังงาน ซึ่งกรณี worst case นี้จะส่งให้มี downside ต่อประมาณการ GPSC และ BGRIM ได้ โดยทุก ๆ การปรับ Ft มากกว่าราคาพลังงาน 1 สตางค์/หน่วย จะกระทบกำไรปี 2567 ของ GPSC ราว -60 ล้านบาท/ปี หรือ -0.8% ของกำไรปกติปี 2567 ส่วน BGRIM กระทบ -21 ล้านบาท/ปี หรือ -0.6% ของกำไรปกติ 2567

ทั้งนี้ มองว่ามีโอกาสน้อยที่นโยบายรัฐจะออกมาในรูปแบบ worst case เพราะ EGAT แบกรับภาระหนี้อยู่สูงแล้วในปัจจุบัน (ราว 1 แสนล้านบาท จน IBD/EQ เป็นราว 1 เท่า และ debt covenant 1.5 เท่า) และระยะยาวมองภาครัฐยังต้องคืนหนี้คงค้างของ EGAT ส่งให้ต้องปรับ Ft ลงช้ากว่าต้นทุนพลังงาน และเป็น upside ต่อทั้ง GPSC และ BGRIM

กลุ่มพลังงานฯ มอง sentiment ลบ ต่อ OR และ PTG จากประเด็นปรับลดราคาน้ำมัน ที่อาจส่งให้ตลาดกังวลว่าการฟื้นของค่าการตลาดดีเซลอาจจำกัด (หากรัฐใช้การลดภาษีสรรพสามิต จะไม่ได้กระทบต่อค่าการตลาดของเอกชน แต่ก็มีโอกาสจำกัดที่ค่าการตลาดปรับขึ้น) หรือหาก worst case ภาครัฐใช้เครื่องมือทั้งภาษีสรรมสามิต และกองทุนฯ แล้วไม่พอ ต้องมาคุมค่าการตลาดดีเซลด้วย จะมี downside ต่อประมาณการกำไรของ OR และ PTG

โดยประเมินทุก ๆ ค่าการตลาดดีเซล -0.1 บาท/ลิตร จะกระทบกำไรปี 2567 ราว -767 ล้านบาท หรือ -5% ของ OR และ -360 ล้านบาท หรือ -27% ของ PTG ทั้งนี้ มองกรณี worst case มีโอกาสเกิดน้อย จากมองการลดภาษีสรรพสามิตสูงสุด 5 บาท/ลิตร เพียงพอรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่เปลี่ยนแปลงราว 22-23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

จึงคงมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อกลุ่มพลังงานฯ ขณะที่คงน้ำหนัก Bullish สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า เลือก BCP, GULF เป็น Top Picks