CGSI : BCH รพ.เป้าหมายของรัฐบาลคูเวต

HoonSmart.com >> BCH  เป้าหมายรายชื่อโรงพยาบาลที่รัฐบาลคูเวตเลือก คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3/67 จะเติบโตทั้ง yoy และ qoq

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)  หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ได้จัดการประชุมให้นักลงทุนสถาบันพบกับศ.ดร.เฉลิม หาญพาณิชย์ CEO ของบริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล (BCH) และทีมนักลงทุนสัมพันธ์ของ BCH ประเด็นหลักที่หารือคือ เรื่องการกลับมาของผู้ป่วยจากคูเวตและอัตราค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือมี Adj. RW มากกว่า 2 จากสำนักงานประกันสังคม (สปส.)

แม้รัฐบาลคูเวตยังไม่สรุปรายชื่อโรงพยาบาลในไทย ที่ประชาชนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากรัฐได้ แต่ BCH เชื่อว่าจะมีโรงพยาบาลไทย 3 แห่ง อยู่ในรายชื่อนี้ และ BCH จะเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับคัดเลือก ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มีความเห็นตรงกับ BCH

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการแน่นอนในการสรุปรายชื่อโรงพยาบาล แต่จากการสำรวจความคิดเห็นของโรงพยาบาลอื่นที่รับผู้ป่วยจากคูเวตเช่นกัน พบว่าผู้ประกอบการโรงพยาบาล คาดว่ารัฐบาลคูเวตจะสรุปรายชื่อโรงพยาบาลก่อนสิ้นปี 67 นี้

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่า ในไตรมาส 3/67 BCH จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% yoy, และเพิ่มขึ้น 52% qoq ขณะที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% yoy และ 22% qoq เป็น 3.5 พันล้านบาท เพราะปกติแล้วไตรมาส 3 จะเป็นไฮ-ซีซั่นของโรงพยาบาลไทย และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะเพิ่มขึ้นจาก 26.0% ในไตรมาส 2/67 เป็น 33.0% ในไตรมาส 3/67 แม้จะยังต่ำกว่า 33.9% ในไตรมาส 3/66 เนื่องจาก BCH น่าจะมีผู้ป่วยชาวคูเวตเข้ามาใช้บริการไม่มากเหมือนไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

BCH มีแผนจะบันทึกรายได้จากการรักษาผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง หรือมีค่าน้ำหนักสัมพันธ์ที่ปรับตามวันนอน (Adj RW) มากกว่า 2 ที่ 7,200 บาท/Adj RW ในไตรมาส 4/67 (สปส. กำหนดอัตราค่าบริการทางการแพทย์อยู่ที่ 12,000 บาท/Adj RW) เนื่องจากผู้บริหาร BCH มองว่าสปส.น่าจะมีงบประมาณไม่พอจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเต็มจำนวน ฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงคาดว่า BCH จะกลับรายการรายได้ประมาณ 81 ล้านบาทในไตรมาส 4/67 ซึ่งสะท้อนอยู่ในตัวเลขประมาณการแล้ว

ราคาหุ้น BCH น่าจะสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สปส.อาจปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและการที่จำนวนผู้ป่วยจากคูเวตฟื้นตัวช้าแล้ว จึงมองว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมากกว่าคู่แข่งในช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าสะสมหุ้น (ราคา BCH ลบ 25% YTD เทียบกลุ่มการแพทย์บวก 3% YTD) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 19.70 บาท ท่ากับ P/E 26 เท่าในปี 68 หรือ +0.5SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี

เชื่อว่าราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้น หาก BCH มีผลกำไรแข็งแกร่งรายไตรมาส และผู้ป่วยชาวคูเวตกลับมาใช้บริการ แต่อาจมี downside risk หากมีการปรับลดค่าบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยประกันสังคม ที่เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงในปี 67 คาดว่า BCH จะมี EPS เติบโตสูงกว่าคู่แข่งในปี 67-69