HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ร่วง 173 จุด นักลงทุนวิตกสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มมากขึ้น หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูกใส่อิสราเอล หนุน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.44% จ่อ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1 ตุลาคม ปิดที่ 42,156.97 จุด ลดลง 173.18 จุด หรือ -0.41% ด้วยความวิตกต่อสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูกใส่อิสราเอล
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,708.75 จุด ลดลง 53.73 จุด, -0.93%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,910.36 จุด ลดลง 278.81 จุด, -1.53%
ส่งผลให้ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate (WTI) และ Brent พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) วัดความผันผวนของตลาด เพิ่มขึ้นกว่า 15% มาที่ 19.26 จุด ตอกย้ำความกังวลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มนักลงทุน
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดของวันได้ และหุ้นก็พื้นตัวจากจุดต่ำสุดหลังการโจมตีของอิหร่าน เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และการตอบโต้ของอิสราเอลหลังจากนั้นมีไม่มากนัก
หุ้นบริษัทผลิตอาวุธปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Northrop Grumman บวก 3% หุ้น Lockheed Martin เพิ่มขึ้น 3.6% หุ้น General Dynamics เพิ่มขึ้น 1.04%
หุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวขึ้นจากราคาน้ำมัน WTI ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2% โดยหุ้น Exxon Mobil เพิ่มขึ้น 2.3% หุ้น Chevron บวก 1.7% หุ้น ConocoPhillips เพิ่มขึ้น 3.9% หุ้น Occidental Petroleum เพิ่มขึ้น 3.3%
นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยหลังเมื่อวันจันทร์ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวว่าไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เผยแพร่ เมื่อคืนนี้ คือ ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS)เดือนสิงหาคม จาก สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 329,000 ตำแหน่ง มาที่ 8.04 ล้านตำแหน่ง จาก 7.71 ล้านตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม และสูงกว่า 7.66 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด
การผลิตของสหรัฐฯ ทรงตัวในเดือนกันยายน โดยสถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) ระบุว่า PMI ภาคการผลิตไม่เปลี่ยนแปลงที่ 47.2 แต่แม้จะทรงตัว แต่ยังคงอ่อนแอ เนื่องจาก PMI ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัว
เอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนกันยายนลดลงมาที่ 47.3 จาก 47.9 ในเดือนสิงหาคม และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 3
นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรในปลายสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเกาะติดการประท้วงผละงานที่ท่าเรือในเขตอีสต์โคสต์และกัลฟ์โคสต์ ส่งผลให้การขนส่งทางทะเลครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ หยุดชะงัก และอาจทำให้เศรษฐกิจเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ต่อวัน ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ งานตกอยู่ในความเสี่ยง และมีผลต่อการเมืองของสหรัฐฯ
ตลาดยุโรปปิดลบจากที่อยู่ในแดนบวกช่วงแรก เนื่องจากนักลงทุนย้ายออกจากสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความวิตกต่อสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น จากอิหร่านวางแผนโจมตีอิสราเอล
ดัชนี Stoxx 600 ปิดลดลง 0.4% ที่จากเพิ่มขึ้นมากถึง 0.5% ในระหว่างวัน
มาตรวัดความผันผวน พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสามสัปดาห์ หุ้นส่วนใหญ่ร่วงลง โดยกลุ่มธนาคารในกลุ่มยูโรโซนลดลง 2.8%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและสินค้าในครัวเรือน ลดลง 1.7% และ 1.3% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน เพิ่มขึ้น 1.3% หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3%
หุ้นกลุ่มบริษัทผลิตอาวุธ อาทิ หุ้น Rheinmetall ของเยอรมนี และหุ้นSaab ของสวีเดน เพิ่มขึ้น 5.1% และ 3.5% ตามลำดับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนปรับตัวลงเนื่อง จากการเข้าซื้อพันธบัตรที่จัดว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน
อัตราผลตอบแทนปรับตัวลงหลังข้อมูลบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อเดือนกันยายนของยูโรโซนลดลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2021 ซึ่งตอกย้ำความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนนี้
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 1% กลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 0.4%
ข้อมูล PMI บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตทั่วยูโรโซนเดือนกันยายนลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในปีนี้ โดยภาคการผลิตของเยอรมนีหดตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบปีเช่นกัน ภาคการผลิตของฝรั่งเศสยังคงหดตัวในเดือนกันยายน ส่วนกิจกรรมการผลิตของอิตาลีหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 520.88 จุด ลดลง 2.01 จุด, -0.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,276.65 จุด เพิ่มขึ้น 39.70 จุด, +0.48%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,574.07 จุด ลดลง 61.68 จุด, -0.81%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,213.14 จุด ลดลง 111.79 จุด, -0.58%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 69.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 73.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
————————————————————————————————————————