บล.บัวหลวงคงเป้าปีนี้แค่ 1,625 เชียร์ 10 หุ้นเด่น ขายอิเล็กฯ-AOT แพง

HoonSmart.com>> บล.บัวหลวงยืนเป้าหมายหุ้นโค้งสุดท้ายของปีนี้ที่ 1,625 จุด เพิ่มขึ้นอีกเพียง 3% จากปัจจุบัน คาดรัฐออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อไม่ทัน กำไรบจ.โต 4.3%  กลยุทธ์เน้นเลือกหุ้นรายตัว เพิ่มน้ำหนักแบงก์  นอนแบงก์ยังเสี่ยง  ส่วน’รับเหมาฯ-เดินเรือ’แย่ แนะซื้อ 10 หุ้นเด่น  AUCT, CHAYO, JMT, GULF, GPSC, CPALL, COM7, TU, GFPT, NYT ขายทำกำไร HANA, KCE, BJC ราคาร้อนแรงมาก  AOT แพง คาดรัฐบาลพับแผนเก็บภาษีขาย-กำไรจากหุ้น  จัดพอร์ตลงตราสารหนี้ชั้นดี 32% ทองคำ 13% อีก 55% ลงทุนหุ้นชอบ ตลาดเวียดนาม ฮ่องกง และสหรัฐฯ

นาย ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง กล่าวว่า บล.บัวหลวงคงคาดการณ์เป้าหมายหุ้นในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2566 มองกรอบบนไว้ที่ 1,625 จุด กรอบล่าง 1,500 จุด  Downside ของตลาดมีไม่มากนัก ปัจจุบันดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,567.19
ส่วนหุ้นไทยที่แลกการ์ด (Laggard) ขณะนี้ปรับขึ้นรับการเมืองชัดเจนแล้ว คาดว่ายังมีแลกการ์ดเพียง 5% ประเด็นม็อบลงถนนในระยะ 1-3 เดือนยังเร็วเกินไปที่จะเกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่ต้องให้เวลารัฐบาลใหม่บริหารบ้านเมือง และมีประเด็นที่ไม่ชอบธรรม ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 12 เดือน

อย่างไรก็ตาม นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจยังจะออกมาไม่ทันในปีนี้ เป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลและพรรคร่วมที่มีข้อจำกัด เรื่องสัดส่วนหนี้ภาครัฐ หนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงมาก จะต้องรอการกระตุ้นในปี 2567  จึงไม่มีการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในปีนี้ หลังจากกำไรบจ.ไตรมาส 2 หดตัว 15% จากไตรมาสแรก (QoQ) สาเหตุหลักจากปิโตรเคมี ขนส่งทางเรือ ถ่านนหิน คาดไตรมาส 3 กำไรกลับมาโต 17% ได้แรงหนุนจากชิ้นส่วนรถยนต์ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ ไฟฟ้า โรงกลั่น ขนส่งทางอากาศ  ส่วนแนวโน้มในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจและกำไรบจ.ดีขึ้นตามวัฎจักร การส่งออกดีขึ้น หลังเห็นสินค้าคงคลังของสหรัฐอยู่ในโซนต่ำ อาจจะเป็นจุดต่ำสุด จำเป็นต้องสั่งซื้อสินค้าแล้ว คาดว่าปีนี้บจ.ทำกำไรโต 4.3% และเพิ่มขึ้น 7.3% ในปี 2567

“เศรษฐกิจเอเชียจะเติบโต อัตราเงินเฟ้อดีกว่าสหรัฐและยุโรป จะส่งผลบวกต่อภาระหนี้รัฐ ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายกำลังอยู่ใกล้จุดสูงสุด จีน เวียดนามปรับลดลง ส่วนไทยไม่รีบ น่าจะปรับลดลงในปลายปีนี้หรือต้นปี 2567  ราคาน้ำมันที่เริ่มนิ่ง คาด WTI เคลื่อนไหวในกรอบ 80-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล  มีผลดีต่อกำไรบจ.และตลาดหุ้น  กำลังซื้อจะกลับมาหลังเงินเฟ้อลดลง หุ้นกลุ่มค้าปลีกน่าจะคึกคักขึ้น ในไตรมาสที่ 3 และค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าจากมาตรการของรัฐบาล”นายชัยพรกล่าว

ส่วนปรากฏการณ์เอลนีโญ ภัยแล้ง ถือเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ต่อภาวะราคาอาหารที่จะปรับตัวสูงขึ้น     ปัจจุบันแม้เงินเฟ้ออยู่ในขาลงแต่ราคาอาหารสัตว์ ราคาเนื้อสัตว์ยังสูงอยู่ ยกเว้นราคาหมูและไก่ลดลงส่วนหนึ่งจากมีการนำเข้าหมูเถื่อน

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินและนอนแบงก์ยังอยู่ในโหมด “ระมัดระวัง” จากคุณภาพหนี้ของ SME และคุณภาพของคนถือบัตรเครดิต ขณะที่อัตราการปล่อยสินเชื่อ  การกู้ซื้อบ้านถูกปฏิเสธในระดับสูงถึง 50%  โดยปกติควรจะอยู่ที่ 25-30% สอดคล้องกับระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูงกว่า 80% เรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับรัฐบาล

นายชัยพรกล่าวว่า หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว บล.บัวหลวงปรับลดเป้าหมายนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้เหลือ 25 ล้านคน/ปี ขณะที่ราคาหุ้น AOT สูงกว่าก่อนโควิด ถือว่าแพงรวมถึงหุ้นเกี่ยวกับสายการบิน แต่ในเชิงจิตวิทยาเน้นเทรดดิ้ง เนื่องจากนโยบายกระตุ้นของรัฐบาลจะส่งผลให้ราคาระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะยืนได้หรือไม่

สิ่งที่น่ากังวลในเชิงการลงทุน คือ เรื่องนโยบายภาครัฐ การบริหารเงิน Digital wallet หัวละหนึ่งหมื่นบาทสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป, ความพยายามแก้ไขกฎหมายให้มีการจัดเก็บกำไรของผู้ที่ลงทุนในตลาดหุ้น, การเก็บภาษีซื้อขายหุ้น (Transaction Tax) , การปรับค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงนโยบายด้านพลังงานน้ำมันและไฟฟ้า ซึ่ง นักลงทุนน่าจับตาดูเป็นพิเศษว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถทำได้ตามที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่   แต่เชื่อว่าเรื่องการจัดเก็บภาษีเกี่ยวกับการขายหุ้น และกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้น จะไม่หยิบมาสานต่อจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คือ เศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบจากการกีดกันการค้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ

บล.บัวหลวงแนะกลยุทธ์การลงทุนครึ่งปีหลัง เลือกรายตัว  กลุ่มที่น่าสนใจได้แก่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แนะเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight)  กลุ่มธนาคาร ส่วนนอนแบงก์หรือไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้คอนซูเมอร์ไฟแนนซ์ ยังมีความเสี่ยงกับคุณภาพของลูกหนี้  แนะนำชะลอการลงทุนไปก่อน สำหรับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และประเทศไทยยังเด่นในด้านอาหาร Street food, spa และ services  แต่บล.บัวหลวงปรับลดเป้าหมายนักท่องเที่ยวเข้ามาในปีนี้เหลือ 25 ล้านคน/ปี ขณะที่ ราคาหุ้น AOT สูงกว่าก่อนโควิด ถือว่าแพงแล้ว รวมถึงหุ้นเกี่ยวกับสายการบิน ในเชิงจิตวิทยา เน้นเทรดดิ้ง เนื่องจากราคาระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะยืนได้หรือไม่

ส่วนกลุ่มที่ยังคงมองเชิงลบ แนะ Underweight คือ 1. กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคก่อสร้าง เนื่องจากการผลักดันโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐยังทำได้ยาก ภายใต้ข้อจำกัดด้านหนี้สาธารณะที่สูง ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนจะรอจนเห็นนโยบายของภาครัฐชัดเจนก่อน 2. กลุ่มขนส่งเดินเรือ  ปีนี้ค่าระวางลดลงมากกระทบกำไรส่วนปีหน้ามองว่าจะดีเฉพาะรถไฟกับสนามบิน 3. กลุ่มปิโตรเคมี Spread ยังไม่ดี ซัพพลายเข้าสู่ตลาดค่อนข้างมาก

” เราแนะนำซื้อ 10 หุ้นเน้นกลุ่มบริหารหนี้ กลุ่มไฟฟ้า ได้แก่ AUCT, CHAYO, JMT, GULF, GPSC, CPALL, COM7, TU, GFPT และ NYT ขณะเดียวกันให้ลดหรือขายออกหุ้น HANA,KCE,BJC หลังจากราคาหุ้นร้อนแรงมาก”นายชัยพรกล่าว

สำหรับการจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคเอกชน Investment Rating สัดส่วน 32% ทองคำ 13% ส่วนที่เหลือแนะลงทุนในตลาดหุ้น 55% โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่ชอบ คือ เวียดนาม ฮ่องกง และสหรัฐฯ