ดาวโจนส์ปิดร่วง 293 จุด รอข้อมูลเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดร่วง 293 จุด รอข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมาก เพื่อประเมินเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจส่งผลต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 3.789% ตลาดยุโรปปิดลดลงเล็กน้อย จากหุ้นพลังงาน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมากกว่า 2%  

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 25 ก.ย. 2567 ปิดที่ 41,914.75 จุด ลดลง 293.47 จุด หรือ -0.70% หลังปรับขึ้นติดต่อกัน 4 วัน ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,722.26 จุด ลดลง 10.67 จุด, -0.19%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,082.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.68 จุด, +0.04%

ในช่วงแรกทั้งดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดในแดนลบ

หุ้นที่ปรับลงมากของวัน ได้แก่ หุ้น General Motors และหุ้น Ford ซึ่งต่างลดลงกว่า 4% หลังจาก Morgan Stanley ปรับลดคำแนะนำการลงทุน หุ้น Amgen ลดลง 5.5% และถ่วงดัชนีดาวโจนส์ 9 ใน 11 กลุ่มใน S&P 500 ปิดวันในแดนลบ นำโดยกลุ่มพลังงานที่ลดลง จากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ร่วงลง หุ้น Chevron ลดลงกว่า 2%

แต่หุ้นเทคโนโลยีกลับปรับขึ้น โดยหุ้น Hewlett Packard Enterprise บวกกว่า 5% หลังจาก Barclays ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุน โดยชึ้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยบวก หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 2.2% ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น มาที่ 3.789%

นักลงทุนจับตารอการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจจำนวนมากในช่วงปลายสัปดาห์ เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเส้นทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีและในปี 2025

ข้อมูลที่จะเผยแพร่ได้แก่ ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สองที่ทบทวนล่าสุด และการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในเช้าวันพฤหัสบดี อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล(Personal Consumption Expenditures) ซึ่งเป็นมาตรการเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ให้ความสำคัญในวันศุกร์

สก็อตต์ เร็น นักกลยุทธ์อาวุโสของ Wells Fargo ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้มองว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงสู่ระดับปานกลางมากขึ้นในช่วงสิ้นปี แต่กรณีฐานไม่มีภาวะถดถอย อย่างไรก็ตามมองว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว (การลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่หน่วงการชะลอตัวในทันที) รวมทั้งสหรัฐฯ เลือกประธานาธิบดีคนใหม่ และความตึงเครียดในตะวันออกกลางและยูเครนก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น

เทรดเดอร์ยังคงคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในปีหน้า ตลาดให้น้ำหนัก 59% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50% อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน จากเครื่องมือ FedWatch CME ซึ่งบ่งชึ้ถึงการผ่อนคลายนโยบายอย่างรวดเร็ว

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนสิงหาคมลดลง 4.7% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ 716,000 ยูนิต ซึ่งสูงกว่า 700,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด

นักลงทุนยังจับตาการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดที่มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในวันนี้ (26 ก.ย.)

ตลาดยุโรปปิดลดลงเล็กน้อย จากหุ้นพลังงานที่ร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ขณะที่หุ้น SAP ของเยอรมนีร่วงลงจากรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ กำลังสอบสวนเรื่องการกำหนดราคาสูงเกินไป

หุ้น SAP ลดลง 2.4% หลังจาก Bloomberg News รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าสหรัฐฯ กำลังสอบสวนบริษัท, Carahsoft Technology ผู้ให้บริการด้านไอทีของสหรัฐฯ และบริษัทอื่นๆ ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อเรียกเก็บเงินเกินจริงกับหน่วยงานของรัฐในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

กลุ่มน้ำมันและก๊าซนำการปรับลงในกลุ่มหลัก ๆ โดยลดลง 1.7% ราคาน้ำมันดิบลดลงกว่า 1% ขณะที่นักลงทุนประเมินว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของจีนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นความต้องการเชื้อเพลิงของผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกได้หรือไม่
หุ้นกลุ่มที่มีตลาดในจีน เช่น กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ ลดลง 1.3% จากที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ในช่วงสองวันที่ผ่านมา

ธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 3.25% จาก 3.50% ตามคาด และระบุว่าหากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ก็อาจผ่อนคลายนโยบายได้เร็วขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

HSBC คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมแต่ละครั้งตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเมษายนปีหน้า เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอลง

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 519.14 จุด ลดลง 0.56 จุด, -0.11%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,268.70 จุด ลดลง 14.06 จุด, -0.17%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,565.62 จุด ลดลง 38.39 จุด, -0.50%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,918.50 จุด ลดลง 78.13 จุด, -0.41%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 1.87 ดอลลาร์ หรือ 2.61% ปิดที่ 69.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 73.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล