HoonSmart.com>>หุ้น THG ร่วง 12.87% หวั่นผลดำเนินงานปีนี้จะแย่กว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบปรับโครงสร้าง 2 ธุรกิจ เล็งไตรมาส 3/67 ขาดทุน หากตั้งสำรองหนี้ฯจากปัญหาภายในบริษัท อาจกระทบต้นทุนการเงินในอนาคต
วันที่ 23 ก.ย. 2567 หุ้นบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ถูกถล่มตั้งแต่เปิดการซื้อขาย ราคาดิ่งต่ำสุด 19.10 บาท ก่อนเด้งกลับขึ้นไปสูงสุด 23.80 บาท และปิดที่ 22 บาท ร่วงลง -3.25 บาทหรือ -12.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 245.74 ล้านบาท หลังจากบริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบพบสงสัยบริษัทย่อย 2 แห่ง ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทที่มี “ครอบครัววนาสิน” ถือหุ้นใหญ่ และการซื้อสินค้าจากบริษัทสิงคโปร์ แต่ไม่รับของ มูลค่ารวม 105 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) คาดจะประเมินผลกระทบในงบการเงินงวดไตรมาสที่ 3/2567
บล.กรุงศรี แนะ”ลดน้ำหนักลงทุน”หุ้น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 22 บาท มีมุมมองลบต่อผลการดำเนินงานปีนี้จะแย่กว่ากลุ่มฯ จากผลกระทบการปรับโครงสร้างของ 2 ธุรกิจ เพื่อลดผลขาดทุน และไตรมาส 3 ปี 2567 มีโอกาสขาดทุน หากต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญจากปัญหาภายในบริษัท รวมถึงปัญหาการควบคุมภายในบริษัทมองเป็นความเสี่ยงต่ออันดับเครดิตองค์กร ซึ่งอาจกระทบต้นทุนเงินทุนในอนาคต
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามถึงข่าวที่อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นกรณีการเผยแพร่ข่าวของบริษัทฯ เรื่องการตรวจพบสงสัยบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทที่มีครอบครัววนาสินถือหุ้นใหญ่และการซื้อสินค้าจากบริษัทสิงคโปร์ แต่ไม่รับของ มูลค่ารวม 105 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ยนั้นบริษัทฯ ขอยืนยันตามข้อมูลและข้อเท็จจริงของเรื่องดังกล่าว เป็นไปตามที่ปรากฎในหนังสือที่อ้างถึงทุกประการ
บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า อดีตประธานกรรมการบริษัทฯ หรือบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้บริหาร หรือพนักงานที่ได้รับมอบหมาย การให้ความเห็นต่อสำนักข่าวของบุคคลดังกล่าวจึงไม่ใช่การดำเนินงานของบริษัทฯ
ทั้งนี้เพื่อให้นักลงทุน ผู้ถือหุ้น และสำนักข่าว ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เท่าเทียม และเป็นทางการ บริษัทฯขอให้ทุกฝ่ายติดตามข้อมูล ข่าวสาร และการประกาศต่าง ๆ ของบริษัทฯ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่ได้ชี้แจงหนังสือที่อ้างถึงและแนวทางการแก้ไขผ่านทาง เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์และเว็บไซต์ของบริษัทฯ เท่านั้น
บริษัทฯ ตั้งมั่นอยู่ในธรรมาภิบาลที่ดีและการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบของเหตุการณ์ที่อาจมีต่อฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทฯ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การวิเคราะห์ดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งด้านการเงิน การดำเนินธุรกิจ และความเสี่ยงด้านกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯสามารถจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ จะพิจารณาและวิเคราะห์กระบวนการควบคุมภายใน หากพบว่ามีจุดบกพร่องจะทำการปรับปรุง ตามหลักเกณฑ์การดำรงสถานะบริษัทจดทะเบียน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ นั้นเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ
บริษัทฯ โดยรวม