เฟดลดดอกเบี้ย 0.5% เหลือ 4.75-5% ค่ามัธยฐาน dot plot ชี้ประมาณการว่าจะลดอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ ตามด้วยปีหน้าลดอีก 1% แล้วลดอีก 0.5% ในปี 2026 ไปจบที่ 2.9%
เฟดคิกออฟลดดอกเบี้ยแรง 50 bps ช่วยคลายความเสี่ยง Policy Mistakes & Recession ยีลด์พันธบัตรสหรัฐอายุยาวก็คงไม่ค่อยอยากจะลงต่อ จึงไม่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากเก็งกำไรส่วนต่างราคา (capital gains) ยีลด์ตั๋วเงินคลัง (T-bills) เป็นขาลงตามดอกเบี้ยนโยบาย ประกอบกับ USD มีแนวโน้มอ่อนค่า น่าจะขับเคลื่อนกระแสเงินปริมาณมหาศาลให้ไหลออกจาก T-bills ไปแสวงหาผลตอบแทนในการลงทุนสารพัดสินทรัพย์ต่างๆที่น่าสนใจทั่วโลก
เราชอบกองทุนในธีม ABC หลังเฟดลดดอกเบี้ย
A for ASEAN ภาพระยะยาวของอาเซียนน่าสนใจยิ่งขึ้นเพราะเป็นเป้าหมายการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (foreign direct investment: FDI) เพื่อปรับห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ในยุคที่ สหรัฐ-จีน ห่างกันมากขึ้น ดอกเบี้ยสหรัฐเข้าสู่วัฏจักรขาลง ดอลลาร์อ่อนค่า น่าจะกระตุ้นฟันด์โฟลว์ไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียและอาเซียน KT-ASEAN มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (โดยทั่วไป 70%-90%) จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่คาดหวังว่า USD น่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอาเซียนในภาพรวม (IDR, SGD, THB, MYR, PHP, VND)
B for BLOCKCHAIN “ขี่คลื่นคริปโต” Spot Bitcoin ETFs เปรียบเสมือน “สะพาน” เชื่อมโลกการเงินเก่าและใหม่ เปิดประตูต้อนรับสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่พอร์ตลงทุนแบบดั้งเดิม เป็นปัจจัยหนุนราคา bitcoin และส่งผลดีต่อตลาดคริปโตภาพรวมหากมีการอนุมัติ ETFs ของโทเคนอื่นๆ ส่วนอีกด้านหนึ่ง Tokenization คือการแปลงสินทรัพย์ต่างๆ มาอยู่ในรูปแบบโทเคนบนโลกดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี อาทิ บล็อกเชน อาจสร้างมูลค่าในโลกการเงินมากถึง 133 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 (Source: McKinsey) เฟดเปลี่ยนจุดโฟกัสออกจากการต่อสู้กับเงินเฟ้อแล้วหันมาดูแลการจ้างงาน ช่วยปลดปล่อยสภาพคล่องมหาศาลเข้าสู่ตลาดการเงินโลก หนุนราคาทองคำทำ new all-time high เราเชื่อว่า Bitcoin ก็น่าจะได้รับอานิสงส์เช่นกัน KT-BLOCKCHAIN คือกองทุนที่เราใช้รับโอกาสและความเสี่ยงจากปัจจัยทั้งหลายดังกล่าว
C for CHINA จีนยืมมือสหรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ? 20 ก.ย. PBOC อัดฉีดสภาพคล่องแต่คงดอกเบี้ยเซอร์ไพรส์ตลาด (ซึ่งคาดว่าจะลด) เงินหยวนแข็งค่า ตลาดหุ้นฮ่องกงบวก > 1% ส่วนตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ค่อนข้างทรงตัว คล้ายส่งสัญญาณว่า “จริงๆแล้วนักลงทุนไม่ได้มองเศรษฐกิจจีนแย่มากอย่างที่สื่อตะวันตกพยายามประโคมข่าวกัน” ดอกเบี้ยสหรัฐเข้าสู่วัฏจักรขาลง USD อ่อนค่า เปิดทางสะดวกให้บรรดาบริษัทจีน refinance กู้ยืมเงินสกุลดอลลาร์ กระตุ้น fund flows ไหลเข้าสู่ตลาดบอนด์จีนรอบใหม่ เปรียบเสมือน PBOC ยืมมือ FED ช่วยผ่อนคลาย financial conditions ลดต้นทุนทางการเงิน น่าจะส่งผลระลอกต่อไปสนับสนุนตลาดหุ้นจีนในที่สุด KT-CHINA, KT-Ashares และ KT-CHINABOND จึงมีสิทธิ์ฟื้นตัวอย่างจริงจัง
*** อัพเดตความเห็นล่าสุดของเราได้ทุกเช้าที่รายการ Fund Today by KTAM ***
ไอเดียกองทุนรวมมีให้ทุกวัน ผู้สนใจเชิญรับชม Fund Today by KTAM ทุกเช้าวันทำการเริ่มเวลา 8:55 น. สามารถพิมพ์คำถามทางไลฟ์ Facebook: KTAM Smart Trade, Youtube: KTAM TV ONLINE หรือรับฟังและร่วมพูดคุยใน Clubhouse: KTAM Smart Trade สดพร้อมกันสามช่องทาง นอกจากนี้ดูคลิปย้อนหลังได้ทั้ง Youtube และ Facebook รวมถึงคลิปสั้นทาง TikTok และ Instagram
#คุยทุกวันฟันทุกเช้า #ฟันทูเดย์855
คำเตือน:
1. ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ทุกความคิดเห็นเป็นมุมมองส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับ house view ของ บลจ. ธนาคาร หรือองค์กรใดๆทั้งสิ้น
3. พอร์ต Belief Allocation, Today Strategy และ Fund To-Do สอดคล้องกับมุมมองส่วนตัวตามสไตล์ "สุดโต่ง-ไร้ขีดจำกัด" จึงมีความเสี่ยงสูงและแตกต่างจาก asset allocation ทั่วๆไปเป็นอย่างมาก
4. ผู้ที่ต้องการทำ asset allocation ในรูปแบบปกติ ควรพิจารณากองทุน Krungthai World Class Series หรือกองทุน มั่ง | มี | ศรี | สุข