HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 103 จุด เฟดลดดอกเบี้ย 0.50% ขายทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นมามาก หุ้นยุโรปและราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 ก.ย. 2567 ปิดที่ 41,503.10 จุด ลดลง 103.08 จุด หรือ -0.25% จากที่ปรับขึ้นไปถึง 375 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ซึ่งเป็นการปรับลดเชิงรุกในขณะเริ่มต้นวงจรการผ่อนคลายทางการเงิน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,618.26 จุด ลดลง 16.32 จุด, -0.29%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,573.30 จุด ลดลง 54.76 จุด, -0.31%
การซื้อขายผันผวนโดยดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นไปถึง 375 จุด ดัชนี S&P 500 ก็แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเฟดแถลงผลการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าขนาดของการลดปกติ ซึ่งนักลงทุนขานรับในช่วงแรก ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดกำลังดำเนินการเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจอ่อนแอ
ที่ประชุมเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินลงสู่ช่วง 4.75%-5.00% จาก 5.25%- 5.5% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากเงินเฟ้อผ่อนคลายลงจากระดับที่เห็นเมื่อสองปีที่แล้ว
“คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวอย่างยั่งยืนไปที่ 2% และเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อนั้นค่อนข้างจะสมดุล” เฟดระบุในแถลงการณ์
ฟิลิป สเตราห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนด้าน Wealth ของ Morningstar กล่าวว่า การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้นถึง 0.50% แสดงให้เห็นว่าเฟดสบายใจที่แนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงนั้นยั่งยืน และตอนนี้อาจหันไปเน้นที่การเลี่ยงที่จะสร้างความกดดันทางเศรษฐกิจด้วยการรักษาอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไปเป็นเวลานานเกินไป
ประธานเฟดนาย เจอโรม พาวเวลล์ พยายามบรรเทาความกังวลในงานแถลงข่าวหลังการประชุมว่า เฟดลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าบางสิ่งที่น่าหนักใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และบอกเป็นนัย ๆ ว่าเป็นเพราะ upside risks ของเงินเฟ้อลดลงมาก
“ยังไม่เห็นว่ามีอะไรในระบบเศรษฐกิจในขณะนี้ที่บ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะถดถอยสูงขึ้น” นายพาวเวลล์กล่าว
แต่ตลาดปรับตัวลง แม้มีความคิดเห็นของนายพาวเวลล์ก็ตาม ส่วนหนึ่งของการปรับลงอาจมาจากการปรับขึ้นอย่างมากก่อนการปรับลดดอกเบี้ย โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 18% จากปีที่แล้วและมากกว่า 1% ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
ไบรอัน จาคอบสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Annex Wealth Management กล่าวว่า เฟดยุติการคงดอกเบี้ยอย่างแรง นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากที่ลดลง 0.50% และคาดว่าจะลดอีก 0.50% ในปีนี้ นอกจากนี้เฟดคาดการณ์ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมากในช่วงแรกจะทำให้อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.4% และอัตราเงินเฟ้อจะลดลงมาที่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามนาย พาวเวลล์ กล่าวว่า การคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดไม่ได้หมายความถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน
ขณะนี้ตลาดให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25%ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน และมองว่ามีโอกาสประมาณ 35% ที่จะมีการปรับลดอีก 0.50%
หุ้นเล็กซึ่งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง ปรับขึ้นดีกว่าหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูง โดยดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้น 2.44% ระหว่างวัน ก่อนที่จะอ่อนตัวลงและปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.04%
หุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค ซึ่งเคยถูกกดดันจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงในช่วงที่ผ่านปรับตัวขึ้น โดยดัชนี KBW Regional bank index เพิ่มขึ้น 3.53% ในระหว่างวัน ก่อนที่จะอ่อนตัวลงและปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.46%
ตลาดยุโรปปิดลบ นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนรู้ผลการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่จะมีขึ้นหลังปิดตลาด ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรการผ่อนคลายทางการเงินในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มนำการปรับลง โดย ลดลง 1%
หุ้น Campari กลุ่มบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของอิตาลีร่วงลง 7.5% หลังจากที่ซีอีโอ มัตเตโอ ฟานตัคคิออตติ(Matteo Fantacchiotti) ลาออกกะทันหันหลังจากรับตำแหน่งเพียงห้าเดือน โดยบริษัทให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
ดัชนีกลุ่มเฮลธ์แคร์ลดลง 0.7% จากการ ลดลง 2.4% ของ Novo Nordisk บริษัทยาเดนมาร์ก หลังจากรายงานว่ายารักษาโรคเบาหวาน Ozempic มีแนวโน้มสูงที่จะเป็น หนึ่งในยาตัวต่อไปที่มีเป้าหมายในการลดราคาในสหรัฐอเมริกา
ตลาดหุ้นใหญ่ของยุโรปทั้งหมดปิดลบ ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมของเฟด ซึ่งคาดจะเริ่มลดดอกเบี้ย โดย FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดเงินให้น้ำหนัก 53% ที่จะลดลง 0.05%
ในอังกฤษ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทรงตัวในเดือนสิงหาคม แต่กลับเร่งตัวขึ้นในภาคบริการซึ่งคาดว่า จะส่งผลธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันพฤหัสบดี
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 514.59 จุด ลดลง 2.60 จุด, -0.50%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,253.68 จุด ลดลง 56.18 จุด, -0.68%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,444.90 จุด ลดลง 42.52 จุด, -0.57%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,711.49 จุด ลดลง 14.59 จุด, -0.08%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 70.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 73.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล