ดาวโจนส์ปิดลบ 15 จุด รอผลประชุมเฟด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย 15 จุด นักลงทุนรอการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ คาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสี่ปี ด้านราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 17กันยายน 2567 ปิดที่ 41,606.18 จุด ลดลงเล็กน้อย 15.90 จุด หรือ -0.04% จากที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนรอผลการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสี่ปี

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,634.58 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, +0.03%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,628.06 จุด เพิ่มขึ้น 35.93 จุด, +0.20%

หุ้นกลุ่มพลังงานบวก 1.3% ปรับขึ้นนำในดัชนี S&P500 จากการเพิ่มขึ้น 3.2%และ 2.1% ในหุ้น Halliburton และหุ้น Devon Energy ตามลำดับ แต่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 1.01%

การประชุมนโยบายของเฟดเริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้(18 ก.ย.) ซึ่งจะแถลงผลหลังเสร็จการประชุม

นักลงทุนไม่แน่ใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากแค่ไหนระหว่าง 0.25% หรือ 0.50% เพราะก่อนหน้านี้สัญญาณของการชะลอตัวของตลาดแรงงานและภาคการผลิตทำให้คาดการณ์กันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากกว่าขนาดปกติที่เคยลด โดยจะลดลง 0.50% แต่ข้อมูลเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม และการผลิตภาคโรงงาน ดีดตัวขึ้น ข้อมูลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นอาจทำให้โอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงในเชิงรุกนั้นน้อยลง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% จากที่เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนกรกฎาคม

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือนจากที่ลดลง 0.9% ในเดือนกรกฎาคม และสูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด

ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การตลาดของ Spartan Capital Securities กล่าวว่า ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ดีของเศรษฐกิจ และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ขณะที่นายเจอโรม พาวเวลล์ อาจจะส่งสัญญานการดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นในการประชุมครั้งต่อไป แต่ก็จะเริ่มระมัดระวัง

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนยังคงให้น้ำหนัก 63% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จากระดับปัจจุบันที่ 5.25%-5.5% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนัก 37% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25%

หุ้น Microsoft เพิ่มขึ้น 0.88% หลังจากคณะกรรมการบริหารอนุมัติแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส 10%

หุ้น Intel เพิ่มขึ้น 2.68% หลังจากเซ็นสัญญากับธุรกิจบริการคลาวด์ของบริษัท Amazon เพื่อผลิตชิปเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบที่ลูกค้ากำหนดเองได้ หุ้น Amazon เพิ่มขึ้น 1.08%

เมื่อวานนี้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดล่าสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ และทรงตัวในระดับสูงตลอดทั้งวัน ดัชนีซึ่งใช้วัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% เป็น 100.98

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น โดยเพิ่มขึ้น 1.19% สู่ 142.29

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งโดยทั่วไปบ่งชี้ถึงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น เพิ่มขึ้นเป็น 3.5986% จากตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีที่ 3.528% ในช่วงก่อนหน้า ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 3.644% จาก 3.621% ในช่วงดึกของวันจันทร์

ตลาดยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ จากมุมมองในทางบวกต่อการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาก

ตลาดหุ้นในประเทศส่วนใหญ่ต่างปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 517.19 จุด เพิ่มขึ้น 2.08 จุด, +0.40%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,309.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.42 จุด, +0.38%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,487.42 จุด เพิ่มขึ้น 37.98 จุด, +0.51%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ ที่ 18,726.08 จุด เพิ่มขึ้น 92.97 จุด, +0.50%

ตลาดหุ้นสเปนเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี

กลุ่มค้าปลีกนำการปรับขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 2.8% ด้วยแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 11.2% จาก Kingfisher หลังปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มกำไรทั้งปี

หุ้นRyanair เพิ่มขึ้น 6.1% หลังจากที่ซีอีโอ Michael O’Leary บอกกับรอยเตอร์ว่า การจองตั๋วดีขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว และความจำเป็นที่ต้องลดราคาน้อยลง ส่วนกำไรทั้งปีมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้ว แต่ยังคง แข็งแกร่งมาก

กลุ่มเดินทางและสันทนาการ เพิ่มขึ้น 2.2%

นักลงทุนจับตาการตัดสินใจของเฟดในวันพุธ โดยFedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าขณะนี้มีโอกาส 61% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% เทียบกับ 34% เมื่อสัปดาห์ก่อน

อย่างไรก็ตาม นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำ เช่น Morgan Stanley และ Deutsche Bank ยังคงคาดเฟดจะเริ่มวงจรการผ่อนคลายนโยบายด้วยการลดดอกเบี้ย 0.25% ในวันพุธ

สำหรับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW รายงานว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีลดลงมากกว่าคาดในเดือนกันยายน โดยดัชนีความเชื่อมั่นลดลง 3.6 จุดจาก 19.2 จุดในเดือนสิงหาคม

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 71.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.31% ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล