“หุ้นเอเชีย” เช้านี้มีทั้งบวก-ลบ จับตาเฟดประชุม

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นเอเชีย” เช้านี้มีทั้งบวกและลบ นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนเผยแพร่ช่วงสุดสัปดาห์ จับตาเฟดประชุม ขณะที่ตลาดสำคัญหลายแห่งปิดทำการช่วงวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์

ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับขึ้นและปรับลงในเช้าวันจันทร์ นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนที่เผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ตลาดสำคัญหลายแห่งปิดทำการในช่วงวันหยุด

ตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่และเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ตลาดญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันผู้สูงอายุ

จีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจส่วนหนึ่งที่น่ากังวล โดยผลผลิตภาคโรงงานในเดือนสิงหาคม ยอดค้าปลีก และตัวเลขการลงทุนต่ำกว่าการคาดการณ์ อัตราการว่างงานในเมืองเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ราคาบ้านเมื่อเทียบเป็นรายปีลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 9 ปี

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณว่าจะยกระดับการต่อสู้กับภาวะเงินฝืด และเตรียมนโยบายเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากที่ข้อมูลสินเชื่อแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นภาคเอกชนยังคงอ่อนแอ

ในวันศุกร์นี้ จีนจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี(Loan Prime Rates-LPR) ระยะเวลา 1 และ 5 ปี ซึ่ง LPR ระยะ 1 ปีปัจจุบันอยู่ที่ 3.35% ขณะที่ LPR ระยะ 5 ปีอยู่ที่ 3.85%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันอังคารและวันพุธ โดยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้ยังมีการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษอีกด้วย

นักลงทุนในเอเชียซื้อขายอย่างระมัดระวัง ขณะที่รอข้อมูลสำคัญและการตัดสินใจของธนาคารกลางในภูมิภาค

ผลสำรวจของรอยเตอร์ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะสูงขึ้นในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะสนับสนุนธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ให้เดินหน้าความเข้มงวดของนโยบายการเงิน โดยคณะกรรมการ BOJ มีกำหนดประชุมนโยบายในวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นในเช้าวันจันทร์โดยซื้อขายที่ 140.49 เทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งหากยืนได้ในระดับนี้ก็จะปิดที่ระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 ปี

ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีกำหนดตัดสินใจเชิงนโยบายในสัปดาห์นี้เช่นกัน และก่อนหน้าการจัดสินใจของเฟดเพียงไม่กี่ชั่วโมง กองทุนทั่วโลกกำลังลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากโอกาสที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยและมูลค่าที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงเกินคาด

ณ เวลา 9.20 น. ในประเทศไทย

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 17,314.52 จุด ลดลง 54.57 จุด, -0.31%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 21,773.24 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด, +0.06%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ซื้อขายที่ 68.91 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.16 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ซื้อขายที่ 71.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล