HoonSmart.com>ประกันชีวิต+วินาศภัย 85% ทุนหนา สภาพคล่องสูง ผ่านด่านทดสอบความทนทานต่อวิกฤติฉลุย ระวัง 15% ฐานะการเงินเปราะบาง คปภ.สั่งแก้ไขพร้อมจับตาใกล้ชิด
น.ส.อายุศรี คำบรรลือ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยมีหน้าที่ในการวิเคราะห์และติดตามความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพธุรกิจประกันภัยระดับมหภาค รวมถึงความเสี่ยงที่ส่งผ่านระหว่างธุรกิจประกันภัยกับภาคการเงินอื่น ๆ จึงทำการทดสอบสถานะของบริษัทภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงจำลอง (Stress Test) เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและประเมินความทนทานของบริษัทภายใต้สถานการณ์จำลองในลักษณะมองไปข้างหน้า (Forward Looking)
รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบจากการเกิดสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบประกันภัยไทยในภาพรวม มาตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา
สำหรับ ในปี 2567 คปภ. ก็ได้ดำเนินการประเมินความทนทานของธุรกิจประกันภัยภายใต้สถานการณ์จำลอง (Stress Test) โดยหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ในการกำหนดสถานการณ์จำลอง Adverse Scenario เพื่อให้ภาคธุรกิจในระบบการเงินทำการทดสอบและประเมินผลกระทบ
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำปัจจัยและค่าพารามิเตอร์ด้านประกันภัยเพิ่มเติม ร่วมกับผู้แทนจากสมาคมประกันชีวิตไทย (TLAA) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA)
สำหรับ ปัจจัยที่กำหนดเพื่อให้บริษัทดำเนินการทดสอบ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อัตราเงินเฟ้อ การเพิ่มขึ้นของค่ารักษาพยาบาล และเหตุการณ์อุทกภัย
ทั้งนี้ ผลการทดสอบพบว่า ระบบประกันภัยโดยรวมมีเสถียรภาพ บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยจำนวนรวมมากกว่า 85% สามารถทนทานต่อสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคจำลองที่กำหนดได้ ทั้งด้านฐานะความมั่นคงทางการเงิน (Solvency) และด้านสภาพคล่อง (Liquidity)
บริษัทประกันชีวิตได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ได้แก่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
ขณะที่ บริษัทประกันวินาศภัยได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านประกันภัย ได้แก่ เหตุการณ์อุทกภัย
บริษัทที่ไม่ผ่านการทดสอบ มีความเปราะบางหรือมีความเสี่ยงที่จะมีฐานะหรือเงินกองทุนต่ำกว่าระดับที่กฎหมายกำหนดหรือมีสภาพคล่องไม่เพียงพอรองรับความเสี่ยง ซึ่งได้ให้บริษัทฯจัดทำแผนการดำเนินการในการรับมือกับผลกระทบดังกล่าว พร้อมกับได้มีการติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งในเรื่องความเสี่ยงหลักที่มีผลกระทบต่อระบบประกันภัย รวมถึงมีความร่วมมือในการติดตามและประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ กับหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง ธปท. และ สำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมพร้อมในการประสานนโยบายและออกมาตรการดูแลที่ตรงจุดเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น