ดาวโจนส์ปิดดิ่ง 410 จุด จ้างงานต่ำกว่าคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ดิ่ง 410 จุด นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ส.ค.67 เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ด้าน”ราคาน้ำมันดิบ” ร่วงกว่า 2% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 6 กันยายน 2567 ปิดที่ 40,345.41 จุด ลดลง 410.34 จุด หรือ -1.01% นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังรายงานข้อมูลการจ้างงานสำคัญตอกย้ำการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะปรับลงเท่าไร

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,408.42 จุด ลดลง 94.99 จุด, -1.73%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,690.83 จุด ลดลง 436.83 จุด, -2.55%

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022

ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.9% ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 5.8%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 165,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนอัตราการว่างงานลดลงจาก 4.3% มาที่ 4.2% ตามคาด

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมเป็น 89,000 ตำแหน่ง จาก 114,000 ตำแหน่งที่รายงานก่อนหน้านี้

ข้อมูลการจ้างงานในเดือนสิงหาคมยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่ชะลอตัว และภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดวิตกและลดความเสี่ยงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ข้อมูลล่าสุดได้เปลี่ยนความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมที่จะมีขึ้นในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ล่าสุดเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 50-50 ที่จะลดดอกเบี้ยลง 0.50% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากวันพฤหัสบดี

ชาร์ลส์ แอชเลย์ ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Catalyst Capital Advisors กล่าวว่า ตลาดโดยทั่วไปกำลังมองหาทิศทาง และต้องมาจากธนาคารกลางสหรัฐ

เอมิลี โรแลนด์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ John Hancock Investment Management กล่าวว่า ตลาดเคลื่อนไหวที่ขับเคลื่อนด้วยความกังวลเรื่องการเติบโต และความหวังว่าเฟดจะเคลื่อนไหวในเชิงรุกมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ในวันศุกร์ นายคริส วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวย้ำถ้อยคำล่าสุดจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ว่า “ถึงเวลาแล้ว” ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง และหากข้อมูลสนับสนุนการปรับลดในการประชุมติดกัน ก็เชื่อว่าเหมาะสมที่จะลดในการประชุมที่ติดกัน

ด้านนายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดแห่งชิคาโก ซึ่งเป็นสมาชิกFOMC ที่ไม่มีสิทธิลงคะแนนในการประชุมนโยบายการเงินเตือนเมื่อวันศุกร์เกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในขณะที่ตลาดงานอ่อนตัวลง

นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า ตอนนี้เหมาะสมแล้วที่จะลดระดับความเข้มงวดจุดยืนของนโยบายด้วยการลดช่วงเป้าหมายของ fed funds rate

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่( Megacap) ร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนทิ้งสินทรัพย์เสี่ยงท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

หุ้น Amazon ลดลง 3.7% และหุ้น Alphabet ลดลง 4% ส่วนหุ้น Meta Platforms ลดลงกว่า 3% หุ้น Broadcom ลดลง 10% จากการคาดการณ์ไตรมาสปัจจุบันที่ไม่สดใส ขณะที่หุ้นเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ ก็ลดลง โดยหุ้น Nvidia และหุ้น Advanced Micro Devices ต่างลดลงราว 4%

VanEck Semiconductor ETFปิดร่วงลง 4.5% และเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020

ตลาดยุโรปปิดลบ เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณที่หลากหลายเกี่ยวกับขนาดของการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้

ดัชนี STOXX 600 ลดลง 1% และกลบการปรับขึ้นที่ติดต่อกัน 4 สัปดาห์โดยลดลง 2.5% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ลดลงมากสุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 สิงหาคม

ดัชนีประเทศหลัก ทั้งหมดร่วงลงประมาณ 1% โดยดัชนี DAX ของเยอรมนีลดลง 1.6% สู่
ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศลดลง 2.4% ในเดือนกรกฎาคม มากกว่าการลดลง 0.3%ที่นักวิเคราะห์คาด

กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มวัสดุพื้นฐาน และกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่ดัชนี STOXX 600 มากสุด โดยลดลงกว่า 2% หุ้นชิปกดดันกลุ่มเทคโนโลยี ตามการลดลงของกลุ่มเดียวกันในสหรัฐฯ จากผลการดำเนินงานที่ไม่สดใสของ Broadcom

ราคาน้ำมันดิบและโลหะที่ร่วงลงกดดันหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่กลุ่มธนาคารซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 1.8% แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 0.6% มาที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022

GDP ไตรมาสสองของยูโรโซนที่ทบทวนใหม่มีการปรับลงเป็น 0.2% จากเดิม 0.3%

ในสัปดาห์หน้าคาดว่าที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) จะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ขณะที่นักลงรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ

หุ้น Volvo Cars ลดลง 5.7% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้เป็นครั้งที่สองของปี

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 506.56 จุด ลดลง 5.49 จุด, -1.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,181.47 จุด ลดลง 60.24 จุด, -0.73%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,352.3 จุด ลดลง 79.66 จุด, -1.07%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,301.9 จุด ลดลง 274.6 จุด, -1.48%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 67.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุพฤศจิกายนลดลง 1.63 เซนต์ หรือ 2.24% ปิดที่ 71.06ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021

ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 8% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 10% แม้โอเปกพลัสตัดสินใจเลื่อนแผนการปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็น 180,000 บาร์เรลล์ต่อวันออกไปถึงเดือนธันวาคมก็ตาม