HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้ม SET ทรงตัว แนวรับ 1,345 – 1,350 จุด แนวต้าน 1,360 – 1,370 จุด ช่วงท้ายตลาด MSCI จะทำการรีบาลานท์ หุ้นบิ๊กแคปหลายตัวถูกถอดออก อาจทำดัชนีผันผวนสูง ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรงขายหุ้นเทคต่อเนื่อง แนะหุ้นเด่น TFM, TU
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,345 – 1,350 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,360 – 1,370 จุด คาดดัชนีทรงตัวในช่วงก่อน MSCI จะทำการรีบาลานท์ ซึ่งมีหุ้น Big Cap.หลายตัวถูกปรับออก กอปรรอ ครม.ชุดใหม่ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะนำทยอยซื้อบริเวณแนวรับ กลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น CPALL,CPAXT,CRC,BJC,CBG กลุ่มรพ. BH,BDMS,BCH กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,GSPC,BGRIM,GUNKUL หลัง กกพ.จะเปิดประมูลพลังงานหมุนเวียนรอบสอง 3,668 เมกะวัตต์ในช่วง ต.ค. – พ.ย. นี้
MSCI จะรีบาลานท์เย็นนี้ส่งผลให้หุ้น AWC,GPSC,EA,IVL จะถูกถอดออกจาก Global Standard Index อาจส่งผลให้ดัชนีผันผวนสูงในช่วงปิดตลาด ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตาม US PCE ก.ค. ซึ่งจะมีผลต่อคาดการณ์ปริมาณการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมถึงรายชื่อ ครม.ชุดใหม่
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.59%, S&P500 -0.00%, Nasdaq -0.23% กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงนำโดย Nvidia -6.38% หลังประมาณการณ์รายได้ Q3/67 ต่ำกว่าคาด กอปรความล่าช้าในส่งมอบชิปรุ่นใหม่ Blackwell แต่ตลาดหุ้นสหรัฐได้ปัจจัยหนุนจาก US GDP Q2/67 ครั้งที่ 2 ขยายตัว +3% QoQ ขณะที่ US PCE Q2/67 ปรับลดลงอยู่ที่ 2.5% และคาด 2.6% YoY บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจเติบโตและเงินเฟ้อต่ำ ดังนั้นจึงยังไม่มีสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TFM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 129 ล้านบาท เติบโตเด่น +24%QoQ, +171%YoY ได้แรงหนุนจากการขายอาหารสัตว์สำหรับการเลี้ยงกุ้งในประเทศอินโดนีเซีย (TUKL) ที่ผ่านจุดคุ้มทุน ประกอบกับการปรับปรุงการผลิตที่เน้นการเพิ่ม production yield บริหารต้นทุน-สินค้าคงคลัง ปรับ product sales mix ให้เหมาะสมกับตลาด และเพิ่มการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY
ส่วนภาพรวม 3Q67 คาดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เพราะว่าเป็นช่วงเพาะเลี้ยงกุ้ง และยังได้ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรในปี 67 ที่ 428 ล้านบาท +392%YoY
หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 1,219 ลบ. (+18%YoY, +6%QoQ) หนุนด้วยรายได้กลุ่มธุรกิจ Value added Product(+16%YoY), และ ธุรกิจ Petcare (+41%YoY) โดยฝั่ง Pecare โตดี จาก Inventory คู่ค้ากลับสู่ปกติเมื่อเทียบ YoY
ส่วน 3Q67 นี้ ยังคาดกำไรในเกณฑ์ดีจาก 1.โมเมนตัมการเติบโตของธุรกิจ Petcareที่ยังต่อเนื่อง 2.การขายบางส่วนใน 2Q67 จะถูกไปรับรู้ใน 3Q67 แทนหลังมีปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน และ 3.คาดมาร์จิ้นยังอยู่ในกรอบบนโดยเฉพาะ Ambient Seafood จาก ต้นทุนราคาปลาทูน่าที่แกว่งขึ้นจากโซนต่ำ 1,300-1,500usd/tonขึ้นบน (แต่คาดว่าจะไม่สูงเกินไป ไม่ควรสูงกว่า 1,800 usd/ton) ส่งผลดีต่อต้นทุนถูก แต่ขายได้แพง(การปรับราคาขายตามราคาปลา)