คปภ. ปิดหลักสูตร วปส. 11 brain storming  เสนอ 6 โปรเจคขับเคลื่อนอุตฯประกันภัยไทย

HoonSmart.com>> ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ  เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 11 ประจำปี 2566 โดยมีผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น 90 คน ซึ่งตลอดหลักสูตรมีการอบรม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในชั้นเรียนและเข้าศึกษาดูงานทั้งในประเทศ รวมทั้งร่วมทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนจัดทำรายงานการศึกษากลุ่ม ในหัวข้อต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประกันภัยของไทย

ทั้งนี้ การจัดทำรายงานการศึกษากลุ่ม (Group Project : GP) เป็นกิจกรรมที่หลักสูตรฯ ให้ความสำคัญและกำหนดให้นักศึกษาทุกคนเข้าร่วม เพื่อช่วยกันระดมความคิดและแบ่งปันประสบการณ์ในแง่มุมต่าง ๆ มานำเสนอในรูปแบบรายงานวิชาการ กำหนดให้ผู้เข้ารับการอบรมนำเสนอรายงานการศึกษากลุ่ม GP และตอบข้อซักถามแก่คณะอาจารย์ที่ปรึกษา ประกอบด้วยอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน คปภ.

สำหรับรายงานวิชาการแบ่งเป็น 6 กลุ่ม 6 หัวข้อ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 หัวข้อ “แนวทางสำหรับภาครัฐเพื่อนำระบบประกันภัยมาใช้บริหารความเสี่ยงจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ Net Zero Emission”  เป้าหมายของประชาคมโลกที่ต้องการให้รัฐบาลทุกประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีเป้าหมายที่จะลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ โดยภาครัฐและภาคธุรกิจจำเป็นต้องร่วมมือกันและปรับตัวในเรื่องดังกล่าว ซึ่งการศึกษานี้เสนอแนะให้ภาครัฐส่งเสริมให้มีการนำระบบประกันภัยมาใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคาร์บอนเครดิตให้เหมาะสมรองรับกับระบบนิเวศของประเทศไทย

กลุ่มที่ 2 หัวข้อ “ปัจจัยในการนำเทคโนโลยีมาใช้เกี่ยวกับการประกันภัย หรืออินชัวร์เทค (InsurTech) ในการส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพ” ภาคธุรกิจประกันภัยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ก้าวเข้าสู่การนำเทคโนโลยีมาสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ (Digital Transformation) โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนางานด้านประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า อินชัวร์เทค (InsurTech)  การพัฒนา Chatbot ซึ่งเดิมมีผู้ให้บริการหลาย ๆ ราย และมีการให้บริการอยู่แล้ว  เสนอให้นำเทคโนโลยี ChatGPT มาใช้ร่วมกับ Chatbot เพื่อให้เกิดประโยชน์ตอบโจทย์ให้กับประชาชนหรือลูกค้าได้ตรงความต้องการ

กลุ่มที่ 3 หัวข้อ “การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบคุ้มครองสิทธิผู้ทำประกันภัย ด้านการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์” อุตสาหกรรมประกันภัยไทยได้พบกับบททดสอบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ปัญหาสำคัญอันหนึ่ง คือ ด้านการให้บริการของประกันภัยไทยจากการร้องเรียนของผู้ทำประกันภัยและประชาชนผู้ได้รับความเสียหายด้านค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถที่เป็นคู่กรณีหรือผู้เสียหาย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อตลาดประกันภัยทั้งในด้านความมั่นคง มาตรฐานที่ชัดเจน กลุ่มนี้จึงเสนอการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี “ระบบคุ้มครองสิทธิผู้ทำประกันภัยและประชาชน ด้านการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ ช่วย ชด เชย”  รวมทั้งสร้างการรับรู้และเข้าถึงการเยียวยาด้านค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถอย่างสมเหตุสมผลและเกิดความพึงพอใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

กลุ่มที่ 4 หัวข้อ “ผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อยกระดับการเข้าถึงประกันสุขภาพให้กับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม” ศึกษาแนวทางที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมให้มีความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายที่น้อยลงสำหรับทั้งผู้ประกันตนและนายจ้าง ซึ่งการเลือกสิทธิให้แก่ลูกจ้างและตนเองในมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ต้องหาซื้อประกันภัยสุขภาพเพิ่มเติมที่จำเป็นต่อการรักษาพยาบาล หากใช้ระบบประกันภัยสุขภาพเอกชนเข้าไปช่วยระบบประกันสังคมในการบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพ ตลอดจนสร้างความร่วมมือทางด้านการให้บริการสุขภาพ  เพื่อยกระดับบริการด้านสินไหมและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในโดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนได้สิทธิค่ารักษาที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อประกันภัยเพิ่มเติมโดยที่ลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อประกันภัยส่วนบุคคลลง และสามารถเลือกซื้อประกันภัยเพิ่มเพื่อรับความคุ้มครองตามเพดานที่ตนเองต้องการได้

กลุ่มที่ 5 หัวข้อ “การเสริมสร้างและส่งเสริมการขายประกันการเดินทางเพื่อเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย”  โดยศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันภัยการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีแผนซื้อประกันภัยการเดินทางหากเกิดอุบัติเหตุหรือต้องเคลื่อนย้ายกลับประเทศแบบผู้ป่วยโดยไม่ต้องสำรองจากจ่ายเงินก่อน การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาประกันภัยการเดินทางที่ตรงกับต้องการและจุดประสงค์การเดินทางทั้งแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม รวมถึงเปรียบเทียบประเภทผลิตภัณฑ์หรือเลือกปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้

กลุ่มที่ 6 หัวข้อ “การพัฒนาเกมกระดาน (Board Game) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการประกันภัยให้แก่นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นรากฐานในการจัดการความเสี่ยง และต่อยอดไปสู่การเติบโตของธุรกิจในอนาคต” การพัฒนาเกมกระดาน (Board Game) เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมในการช่วยส่งเสริมความรู้และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยให้แก่กลุ่มผู้เล่น โดยที่ยังคงสร้างความสนุกสนานพร้อมทั้งให้เกิดการเรียนรู้ด้านวิชาการไปพร้อม ๆ กัน โดยอาศัยความร่วมมือของหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจ เพื่อให้สร้างประโยชน์ในการสร้างความตระหนักรู้ด้านการประกันชีวิต และการประกันวินาศภัย

ต่อจากนั้นเลขาธิการ คปภ. ได้นำคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. และนักศึกษา วปส. 11 ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยนำสิ่งของอุปโภคบริโภคของนักศึกษาที่ร่วมบริจาค ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน เป็นต้น และเงินร่วมบริจาค จำนวน 308,501 บาท ณ โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566

“ต้องขอชื่นชมนักศึกษา วปส. 11 ที่ได้ทุ่มเทความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการค้นคว้าและนำเสนอรายงานวิชาการ โดยทั้ง 6 เรื่อง ล้วนเป็นประเด็นร่วมสมัย และผลการศึกษาจะเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมประกันภัยและประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผมและอาจารย์ที่ปรึกษาได้ซักถามและให้ข้อแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้นำไปปรับปรุงรายงานวิชาการให้ดียิ่งขึ้น และจะได้มีการประชุมเพื่อคัดเลือกสุดยอดรายงานวิชาการดีเด่นเพื่อนำเสนอในงานสัมมนาวิชาการของสำนักงาน คปภ. และนำลงพิมพ์เผยแพร่ในวารสารด้านประกันภัยต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย