HMPRO ชูกำไร 1,619.87 ลบ.โต 6.57% ขายดี มาร์จิ้นเพิ่ม เปิด 3 สาขาQ2/66

HoonSmart.com>>”โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ “(HMPRO) เปิดกวาดกำไร 1,619.87 ล้านบาท ได้เศรษฐกิจโต อากาศร้อน หนุนยอดขายดี เอาชนะค่าไฟฟ้าเพิ่ม รวม 6 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิ 3,230.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.60%  บล.ทรีนีตี้ยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท ยืนเป้ากำไรทั้งปีนี้ 6,742 ล้านบาท โต 8% 

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไรสุทธิ 1,619.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 99.80 ล้านบาทหรือ 6.57%จากที่มีกำไรสุทธิ 1,520,07 ล้านบาท โดยมีกำไรหุ้นละ 0.12 บาทเท่ากัน โดยมีรายได้รวม 18,902.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,595.12 ล้านบาท คิดเป็น 9.22% และมีกำไรขั้นต้น 4,679.87 ล้านบาท เทียบกับจำนวน 4,195.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484.43 ล้านบาทหรือ 11.55%

ส่วนผลงานรวม 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 3,230.99 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.25 บาท เพิ่มขึ้น 199.97 ล้านบาท หรือ 6.60% จากจำนวน 3,031.02 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.23 บาท มีรายได้รวม 37,154.54 ล้านบาท เทียบกับจำนวน 33,980.07 ล้านบาท เติบโต 3,174.47ล้านบาทหรือ 9.34% และมีกำไรขั้นต้น 9,172.34 ล้านบาท เทียบกับจำนวน  8,292.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 880.24  ล้านบาทหรือ 10.62%

กำไรที่ดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 มาจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวและเป็นช่วงฤดูร้อน ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค.ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในกลุ่มเครื่องทำความเย็นเติบโตสูงขึ้นกว่าปกติ อีกทั้งบริษัทฯยังได้มีการจัดแคมเปญ ‘เก่ามีค่า นำมาแลกใหม่’ หรือ‘Trade-in’ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการจ าหน่ายสินค้ารวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ทำให้ภาพรวมยอดขาย มีการเติบโตสูงขึ้นทั้งในส่วนของสาขาและออนไลน์ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากการมีวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน และจากการที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงเดือนมิ.ย. ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างต่างๆ ก็ตาม

อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับความกดดันในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูง อาทิ ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการเตรียมเปิดสาขาใหม่จำนวน 3 สาขา ซึ่งการขยายสาขายังคงดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ โดยบริษัทฯ มีการเปิดสาขาเมกาโฮมใหม่ 3 สาขา ได้แก่ สาขานครปฐม เชียงใหม่ และบางแสน รวมถึงมีการปิดโฮมโปร สาขาโลตัส บางแค เพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่ส าหรับช่วงไตรมาสที่3 ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2566บริษัทฯ มีโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 24 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 7 สาขา

นักวิเคราะห์บล.ทรีนีตี้ ยังคงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายปีนี้ที่หุ้นละ 18 บาท ราคาปัจจุบัน คิดเป็น Forward P/E ปี 66 ราว 28 เท่า หลังกำไรไตรมาสที่ 2 ออกมาตามที่คาด  โดย SSSG ของโฮมโปรอยู่ที่ 4.9%, Megahome อยู่ที่ -2% และ Homepro Malaysia อยูที่  -11%

กำไรครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3,231 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 6,742 ล้านบาท โต 8% YoY คาดกำไรไตรมาสที่ 3 ยังสามารถโตได้ YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน   ส่วนปัจจัยที่อาจส่งผลบวกต่อกำไรได้แก่นโยบายการลดค่าไฟและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ รวมถึงปรากฎการณ์ El nino ที่ทำให้อากาศร้อนและฝนตกน้อยกว่าปกติ และเราคาดว่าในครึ่งปีหลัง บริษัทสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตของยอดขายได้ โดยปัจจัยบวกได้แก่การท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้นรวมถึงค่าไฟที่ลดลง