‘ก.ล.ต.-ตลท.’เร่งคุมนำหุ้นไปตึ๊ง จ่อสั่งรายงาน-ดูแลนักลงทุน

HoonSmart.com>>ก.ล.ต.จับมือ ตลท.หามาตรการเบรคเจ้าของ ผู้บริหาร นำหุ้นไปกู้ยืมเงินนอกตลาด ยอมรับห้ามไม่ได้เป็นสิทธิถูกต้อง แต่อย่าให้กระทบภาพรวม เล็งให้ความรู้-สั่งเปิดเผยข้อมูล เร็วๆ นี้ ด้าน WARRIX ผู้ถือหุ้นใหญ่สั่งอายัดหุ้น 105.21 ล้านหุ้นในคัสโตเดียน

กรณี หุ้นบริษัท วอริกซ์ สปอร์ต (WARRIX)หายไปจากคัสโตเดี้ยนจำนวน 15 ล้านหุ้นนั้น
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่บริษัทไปทำสัญญากันเอง และตลท.ไม่ทราบว่าทำสัญญาอะไรกันไว้ ซึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ได้ให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ทำการรายงานแล้ว ซึ่งปกติแล้วหากขายหุ้นเกินที่กำหนด จะต้องทำการรายงานข้อมูล โดยไม่ต้องบอก เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ถือหุ้นที่จะต้องทำ

ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงว่า เป็นธุรกรรมที่ทำกันนอกตลาดหุ้น เรียกว่าเป็นธุรกรรมที่ทำกันโดยเอกชนเป็นคู่สัญญากัน เป็นข้อพิพาทของเอกชนที่ต้องดำเนินการกันเอง แต่ทางก.ล.ต ได้ให้บริษัทฯทำการชี้แจง ช่วงนี้ก็รอให้ข้อมูลครบถ้วนแล้วจะดูแลต่อไปว่ามีการทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ก็มีการประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) อย่างใกล้ชิด

หลักๆ คือ มีการนำหุ้นไปกู้ยืมเงินกันนอกตลาด ซึ่งเป็นสิทธิของเจ้าของหุ้น แต่ถ้าส่งผลในเชิงความเสี่ยงต่อระบบ เช่น ทำแล้วเกิดการถูกบังคับขาย หรือ Forced Sell ทาง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างหาแนวทางในการป้องกัน เช่น ทำให้นักลงทุนรับทราบข้อมูลที่มีการนำหุ้นไปกู้ยืม เพราะปัจจุบันมาตรา 59 การนำหุ้นไปกู้ยืมเงินข้างนอกอาจจะยังไม่มีการเปลี่ยนผู้ครอบครอง ก็ยังไม่มีหน้าที่ต้องรายงาน ซึ่งกำลังหากลไกในการให้เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ เพราะถ้าเป็นผู้ถือหุ้นแต่ไม่ได้บริหารบริษัท จะใช้มาตรา 59 ไม่ได้

เล็งสั่งรายงานการนำหุ้นไปกู้ยืมเงิน

นอกจากนี้ จะให้ความรู้กับผู้บริหาร หรือเจ้าของหุ้น และคนที่ไปทำธุรกรรมนอกตลาดว่าเกิดความเสี่ยง การไปทำเงื่อนไขการกู้ยืมนอกตลาด เป็นเงื่อนไขของคนกู้กับคนให้กู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่เพราะเงื่อนไขมีความซับซ้อน จะต้องพิจารณาอะไรบ้าง ซึ่งทาง ก.ล.ต.กำลังร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯในการให้ความรู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เป็นเรื่องแรกที่ทำได้ก่อน แต่การรายงานข้อมูลนั้น จะต้องไปทำประชาพิจารณ์ก่อน หากเห็นด้วยก็จะทำการออกประกาศเพิ่มเติมมารองรับ

“เป็นการสร้างความเข้าใจให้กับทั้งผู้ไปกู้นอกตลาด และผู้ลงทุน ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งการกู้เงินในตลาด คือ มาร์จิ้น และการกู้เงินนอกตลาด ถ้าทำไม่ถูกต้อง เป็นบทบาทที่เราต้องเข้าไปจัดการตามปกติ “ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ กล่าว

เพิ่มอำนาจสอบสวน

ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่างแก้กฎหมายที่จะให้ ก.ล.ต. มีอำนาจเป็นพนักงานสอบสวน จะทำให้กระบวนการต่างๆ รวดเร็วขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าไปสอบสวนทุกกรณี แต่จะเลือกเฉพาะกรณีที่มีผลกระทบในวงกว้าง ไม่ต้องกล่าวโทษแล้วส่งไปให้ตำรวจเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานถัดไป ทางก.ล.ต.สามารถส่งต่อไปที่อัยการได้เอง

“ตอนนี้เราเตรียมความพร้อม เติมกำลังคนที่จะมาเป็นพนักงานสอบสวนไว้แล้ว เพื่อที่เมื่อกฎหมายออกก็สามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งขณะนี้เรื่องของการขอแก้กฎหมายอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งภาครัฐมีการสนับสนุนให้การทำให้ตลาดทุนเป็นกลไกที่สำคัญ”ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ กล่าว

ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ กล่าวว่า ในกฎหมาย ยังจะมีการแก้เรื่องการทำชอร์ตเซล ให้สามารถควบคุมนักลงทุนต่างประเทศได้ด้วย จากปัจจุบันกฎหมายให้ควบคุมได้เฉพาะบริษัทที่ทำชอร์ตเซลเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมถึงการเอาผิดนักลงทุนได้โดยตรง แต่ถ้าจะเอาผิดนักลงทุนต้องทำผ่านคนกลาง หรือบริษัทหลักทรัพย์ ทำให้ใช้เวลานาน

สั่งอายัดหุ้น 105.21 ล้านหุ้น
ขณะที่ในวันนี้ (26 ส.ค.2567) บริษัท วอริกซ์สปอร์ต (WARRIX) รายงานว่าเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ได้ทำการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำนวน 14,942,530 หุ้น หรือคิดเป็น 2.49% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล โดยทำรายการผ่านศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทย) จำกัด (TSD)
สำหรับ บริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล มีกลุ่มครอบครัววิตนากร ถือหุ้นรายใหญ่ และมีนายประสิทธิ์ วิตนากร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็น 20.32%


ทั้งนี้ นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ตรวจพบว่าจำนวนหุ้นที่นำไปจำนำเพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้โดยการฝากในฐานะเป็นหลักประกันไว้กับคัสโตเดียนนั้น หายไปจำนวน 15,000,000 หุ้น โดยที่ยังไม่มีการผิดนัดชำระเงินกู้แต่ประการใด จึงได้ดำเนินการบอกล้างโมฆียกรรมการกู้ยืมเงินดังกล่าวแล้วและอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อติดตามหุ้นที่หายไปดังกล่าว และให้คัสโตเดียนส่งมอบคืนหุ้นที่ฝากไว้เป็นหลักประกันคืนทั้งหมด

สำหรับ หุ้นจำนวนที่เหลือที่ยังอยู่ในความครอบครองของคัสโตเดียนจำนวน 105,211,000 หุ้น นั้น นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ได้ขอคำสั่งศาลอายัดหุ้นดังกล่าวไว้ ขณะนี้คัสโตเดียนและตัวแทนของคัสโตเดียนจึงถูกสั่งห้ามมิให้จำหน่ายจ่ายโอนหุ้นดังกล่าวแล้ว
ปัจจุบัน นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล มีสัดส่วนการถือหุ้นใน WARRIX เหลือ 31.11% จากก่อนหน้าที่ถือในสัดส่วน 53.64%