ดาวโจนส์ปิดบวก 163 จุด Nasdaq ร่วง ผิดหวังผลดำเนินงานเทสลา-เน็ตฟลิกซ์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 163 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 แรงหนุนของผลประกอบการที่ดีกว่าของ “จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” สวนทาง ดัชนี Nasdaq ลดลง 2% ผิดหวังผลดำเนินงาน “เทสลา-เน็ตฟลิกซ์” ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 20กรกฎาคม 2566 ที่ 35,225.18 จุด เพิ่มขึ้น 163.97 จุด หรือ 0.47% ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ด้วยแรงหนุนของผลประกอบการที่ดีกว่าของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่ดัชนี Nasdaq ลดลง 2% จากผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังของ เทสลาและเน็ตฟลิกซ์

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,534.87 จุด ลดลง 30.85 จุด, -0.68%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,063.31 จุด ร่วงลง 294.71 จุด, -2.05%

หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน บริษัทยารายใหญ่บวก 6% หลังปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปีขึ้นและกำไรไตรมาสสองดีกว่าที่คาด
หุ้น Travelers ธุรกิจประกันก็ปรับตัวขึ้นเช่นกันจากรายได้ที่สูงเกินคาด

แต่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไม่ได้สดใสทุกราย เพราะเทสลาและเน็ตฟลิกซ์ซึ่งเป็นรายแรกในกลุ่มเทคโนโลยีที่เปิดเผยผลการดำเนินงาน ทำให้นักลงทุนผิดหวัง หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลงกว่า 8% แม้กำไรดีกว่าคาดแต่รายได้พลาดเป้า ขณะที่การประกาศแผนลดราคาจำหน่ายของเทสลาทำให้ราคาหุ้นตกลงกว่า 9% ประกอบกับกำไรเบื้องต้นต่ำกว่าคาด

ผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์และเทสลา ทำลายความหวังที่ว่าธุรกิจเทคโนโลยีจะเป็นตัวชูโรงผลการดำเนินงานไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียนในฤดูกาลนี้ จากที่เริ่มต้นรายงานมาค่อนข้างดีของบริษัทขนาดใหญ่

สำหรับบริษัทอื่นที่รายงานผลการดำเนินงาน หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์บวกกว่า 6% จากผลประกอบการไตรมาสสองที่แข็งแกร่งและปรับคาดการณ์กำไรทั้งปีขึ้น

หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 3.23% หลังปรับคาดการณ์กำไรทั้งปีขึ้น และรายงานผลการดำเนินงานรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความต้องการเดินทางระหว่างประเทศ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเผยแพร่ได้แก่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลง 9,000 ราย มาที่ 228,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และต่ำกว่า 280,000 ราย ซึ่งเป็นระดับที่นักวิเคราะห์คาดมองว่าเป็นระดับที่บ่งชี้การชะลอตัวของการขยายของการจ้างงาน เมื่อเทียบกับขนาดตลาดแรงงานของสหรัฐ

ข้อมูลตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งเพื่อคุมเงินเฟ้อ ในการประชุมปลายเดือนนี้ แต่เบน เจฟฟรีย์ จากBMO Capital Markets กล่าวว่า การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกและข้อมูลค้าปลีกที่เผยแพร่ในวันอังคารที่ผ่านมา จะมีผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็นเวลานาน โดยคาดว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีกในเดือนกันยายนหรือไม่ก็พฤศจิกายน เพื่อทำให้ภาวะการเงินตึงตัวมากพอที่จะคุมเงินเฟ้อได้

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ(NAR) รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมิถุนายนลดลง 18.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงมากที่สุดสำหรับยอดขายของเดือนมิถุนายนนับตั้งแต่ปี 2009

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดรอบ 1 เดือน ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลธ์แคร์ แม้หุ้นผู้ผลิตชิปลดลงจากแรงเทขาย หลัง TSMC บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ในไต้หวันคาดการณ์ยอดขายที่ลดลง

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและเงินเฟ้ออังกฤษที่อ่อนตัวลงทำให้มีความหวังว่าแรงกดดันด้านราคาของโลกลดลง

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเฮลธ์แคร์ต่างบวก 1.6% กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 0.6%

แดเนียลลา ฮาธอร์น จาก Capital.com กล่าวว่า ทั้งสามกลุ่มนี้ตกลงมาในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้

หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ทั้ง ASML, ASM International และ Aixtron ลดลงระหว่าง 2.7% ถึง 5.6% หลัง TSMC บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ในไต้หวันคาดการณ์ยอดขายปี 2023 ที่ลดลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา กระทบความต้องการชิป

หุ้น Saab ในสวีเดน บวก 4.1% หลังปรับคาดการณ์ยอดขายขึ้น หุ้น Telenor ในนอร์เวย์เพิ่มขึ้น 6.7% หลังรายงานกำไรไตรมาสสองดีกว่าคาดเล็กน้อย

หุ้น Volvo Cars ลดลง 4.2% หลังกำไรจากการดำเนินงานร่วง 54%

หุ้น Electrolux บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านรายใหญ่สุดของยุโรปลดลง 20.3% ไปที่ระดับต่ำสุดของดัชนี STOXX 600 หลังรายงานผลขาดทุนในไตรมาสสอง

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 463.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด, +0.42%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,646.05 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด, +0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,384.91 จุด เพิ่มขึ้น 57.97 จุด, +0.79%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,204.22 จุด เพิ่มขึ้น 95.29 จุด, +0.59%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 79.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล