ERA เผยกำลังซื้ออสังหาฯ ในไทยฟื้นตัว-ต่างชาติกังวลการเมือง

HoonSmart.com>> ERA เผยกำลังซื้ออสังหาฯ ในประเทศเริ่มฟื้นตัว ตลาดวัยรุ่นโดดเด่น ด้านนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยกลับมาซื้อบ้าง แต่ยังกังวลการเมืองในไทย คาดตั้งรัฐบาลใหม่ งบประมาณคลอดดึงความเชื่อมั่นกลับ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 6,000 ล้านบาท พร้อมประกาศแผนกลยุทธ์ต่อยอดการเติบโต วางธีม “Enrich lives, Embrace Tech” ชู “CHAT GPT” สุดล้ำหนุนสร้างตัวแทนขายคุณภาพ พร้อมขยายสาขาครอบคลุมทั่วไทย ตัวแทนแตะระดับ 3,000 ราย สิ้นปีนี้

นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (ERA Holding (ประเทศไทย)) ธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย แต่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังทำให้ไม่มั่นใจมากนัก ในขณะที่กำลังซื้อในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดหลักมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 30% จากที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะฟื้นตัวกลับมาได้ ส่วนตลาดรวมน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวต้นปี 2567 เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ไม่น่าเกินไตรมาส 3 นี้ และเมื่องบประมาณต่างๆ ทยอยออกมาน่าจะดึงความมั่นใจของนักลงทุนกลับมาได้

วรเดช ศิวเตชานนท์

“กำลังซื้อในไทยมีเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มคนอายุน้อยก็เป็นกลุ่มที่โดดเด่นมีรายได้สูงมีกำลังซื้อ ส่วนนักลงทุนต่างชาติเรามีสัดส่วนประมาณ 10% โดยมีทั้งนักลงทุนสิงคโปร์ที่ซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุน ขณะที่นักลงทุนยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้ออสังหาฯ ที่หัวหิน สามร้อยยอด ช่วงก่อนโควิดถือว่าเป็นตลาดที่ดีมาก เพราะคนยุโรปอยู่ยาว ซื้ออสังหาฯ เพื่อหนีหนาวมาอยู่ในไทย 6 เดือนและปล่อยเช่า 6 เดือน เป็นตลาดที่เราเติบโตมาตลอด แต่ตอนนี้ยังไม่กลับมาตั้งแต่เกิดโควิด ขณะที่นักลงทุนจีนเริ่มสนใจซื้ออสังหาฯ ในหัวหิน”นายวรเดช กล่าว

สำหรับยอดขายในครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณพันล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายในประเทศ 3,000 ล้านบาทและต่างชาติอยู่ที่ 3,000 ล้านบาทเท่ากัน จากช่วงที่เกิดโควิดกระทบพอร์ตลดลง แต่ปัจจุบันเริ่มขยายสาขา เพิ่มจำนวนพนักงานที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ เพื่อขยายสินค้าให้เพิ่มขึ้นรองรับความต้องการของนักลงทุน จากที่ผ่านมาพบว่าสินค้าหรืออสังหาริทรัพย์ที่บริษัทมีไม่ตรงกับความต้องการของนักลงทุน เช่น บ้านเดี่ยวที่นักลงทุนต้องการราคา 10-15 ล้านบาท แต่อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาอยู่ที่ 7-8 ล้านบาท เป็นต้น

นายวรเดช กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 36% คอนโด 25% ทาวน์โฮม 10% ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าและอื่นๆ

พร้อมกับมองแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะกระทบทางด้านจิตวิทยาในช่วงแรกที่อาจทำให้คนซื้อกังวล แต่การซื้อสังหาริมทรัพย์ไม่เหมือนการซื้อรถ ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ลดลงตามอัตราที่จ่าย ซึ่งแนะนำลูกค้าให้จ่ายเงินมากกว่ายอดขั้นต่ำ ซึ่งเชื่อว่าความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังมีต่อเนื่อง

นายวรเดช กล่วว่า บริษัทดำเนินธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันจะก้าวขึ้นสู่ปีที่ 31 บริษัทจึงประกาศทรานฟอร์มธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ วางธีมประจำปี “Enrich lives, Embrace Tech” เติมเต็มชีวิตนักขายอสังหาฯ ด้วยเทคโนโลยีโลกอนาคต” ชูจุดเด่นเป็นบริษัทแรกของวงการธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ โดยจะนำ ‘Chat GPT’ หรือ Chatbot Generative Pre-trained Transformer มาใช้ และด้วยการสนับสนุนจาก ERA Asia Pacific ทำให้ Chat GPT โมเดลนี้ ได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นภายใต้การดูแลของทีม AI LAB เพื่อให้ตอบสนองต่อธุรกิจของ ERA โดยเฉพาะ จึงมีความชาญฉลาดในด้านการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ตัวแทนขายและบริษัทสมาชิกของ ERA สามารถนำไปใช้งานได้ง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้ว

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา ERA Asia Pacific ได้นำ Chat GPT มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับสำนักงานภูมิภาคในประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว และประเทศไทย โดยจะมีการฝึกสอนการใช้งานและสนับสนุนในทุกด้าน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทสมาชิกและตัวแทนขายจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทยังนำโปรแกรม “VR PRO” มาใช้ ซึ่งจะสามารถแสดงภาพเสมือนจริงของทรัพย์แต่ละประเภทได้อย่างละเอียดทุกพื้นที่ ทำให้ลูกค้าในทุกมุมโลกสามารถเข้าดูทรัพย์และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ผ่านทางระบบได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ตั้งจริง ช่วยเพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลา ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการปิดดีลซื้อหรือเช่าขายอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้นอย่างมาก

“ด้วยการได้รับการสนับสนุนที่ดีจาก ERA Asia Pacific อย่างต่อเนื่อง พร้อมเครื่องมือ AI ที่ทรงประสิทธิภาพ ผนวกกับความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ของทุกภาคส่วนภายใต้ ERA ประเทศไทย ที่ตั้งใจจะส่งมอบความความสำเร็จให้กับบริษัทสมาชิกและตัวแทนขาย เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการมีตัวแทนขายแตะระดับ 3,000 คน และขยายสาขาได้ครบ 50 สาขาภายในปี 2566 นี้ ได้อย่างแน่นอน” นายวรเดชกล่าว

ด้านนางสาวรณิดา พูลเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 นี้ บริษัทมั่นใจว่าด้วย เทคโนโลยี Chat GPT ที่ถูกจัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับ ERA จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาเสริมศักยภาพของตัวแทนขาย ให้สามารถทำการขายทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นและให้ Agent ทำงานได้ง่ายขึ้นบริษัทเชื่อว่าภาพความสำเร็จของตัวแทนขายและบริษัทสมาชิกที่เกิดขึ้นทั้งก่อนหน้าและต่อจากนี้ จะเป็นเครื่องการันตีความเชื่อมั่นให้กับแฟรนไชส์และตัวแทนใหม่ ให้ก้าวเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ERA และสนับสนุนให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายสาขาแฟรนไชส์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2566 นี้

วรณิดา พูลเอี่ยม

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาในระยะเวลา 6 เดือน ERA สามารถขยายการให้บริการได้ถึง 15 สาขา ในพื้นที่ดังนี้ สาขาอยุธยา,สาขานครปฐม,สาขากาญจนบุรี,สาขาชิดลม,สาขาสาทร,สาขาภูเก็ต,สาขาพานทอง(ชลบุรี),สาขาสมุทรปราการ,สาขาเชียงใหม่1,สาขาสุพรรณบุรี, สาขารามอินทรา, สาขาปทุมธานี, สาขาเชียงใหม่2, สาขาพิษณุโลก และสาขาหัวหิน และในขณะนี้มีผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นบริษัทสมาชิก ERA อยู่อีกหลายรายซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายสาขาได้ตรงตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

“ERA THAILAND มีระบบการทำงานที่แข็งแรง มีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งและมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีตลอดเวลา มีการซัพพอร์ตตัวแทนขายและบริษัทสมาชิกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรม การดูแลวางแผนงาน และอื่นๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะเป็นจุดแข็งสำคัญ ที่ทำให้บริษัทเติบโตไปพร้อมกับสมาชิกตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกด้าน” นางสาวรณิดา กล่าว