HoonSmart.com >> SAAM ดึง “นรัตถ์ สาระมาน” ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เสริมทัพ ผนึกกำลังตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-โทรคมนาคม-ซอฟต์แวร์ เริ่มงานโปรเจคแรกมูลค่า 200-300 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ดันรายได้ 67 นิวไฮ และปี 2568 มั่นใจได้งานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท อนาคตสัดส่วนรายได้ Non-Energy (เกมส์-SI-ซอฟต์แวร์) สูงขึ้นแทนที่พลังงาน
นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ร่วมมือกับ ดร.นรัตถ์ สาระมาน ผู้เชี่ยวชาญ ดิจิทัลเทคโนโลยี ตั้งบริษัทร่วมทุนรุกพัฒนาโครงการโทรคมนาคม-ซอฟต์แวร์-โครงสร้างพื้นฐาน รายละเอียดบริษัทร่วมทุน คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับดร.นรัตถ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) และกรรมการสภาดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไซแมท (SIMAT) ดำเนินโครงการเน็ตชายขอบ ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี โครงการโทรคมนาคม-โครงสร้างพื้นฐาน
ความร่วมมือดังกล่าว ส่งผลดีต่อ SAAM จากที่เริ่มแตกไลน์ธุรกิจเข้าสู่ระบบงานสารสนเทศเทคโนโลยี (SI) จากการเข้าซื้อกิจการ “เอสเอ็มซิสเต็ม ดีเวลลอปเมนท์ (SMSD) ก่อนหน้านี้ ซึ่งความร่วมมือนี้ เป็นการขยายธุรกิจอีกขึ้นในการก้าวสู่การเป็นผู้นำ “ผู้พัฒนาโครงการงานระบบ” ตั้งแต่ต้นน้ำ จากการคิดโปรเจค ดำเนินการโครงการ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนการบำรุง-ดูแลรักษา สร้างรายได้ต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งปีนี้ จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ หรือทำสถิติสูงสุดใหม่ นอกเหนือจากการเป็นโปรเจคดิเวลลอปเปอร์ พลังงาน
” ความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และเชี่ยวชาญธุรกิจต่าง ๆ คือเป้าหมายของบริษัท ฯ เพื่อก้าวเป็นผู้นำพัฒนาโครงการงานระบบ มั่นใจว่า ดร.นรัตถ์ เข้ามาร่วมผลักดันและสร้างการเจริญเติบโตให้กับ SAAM ขับเคลื่อนธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ที่มีศักยภาพการเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต สอดรับเมกะเทรนด์ ซึ่ง ดร.นรัตถ์ มีประสบการณ์ในธุรกิจดิจิทัลเทคโนโลยี โทรคมนาคม และการสื่อสาร มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี ได้รับการยอมรับจากคนในแวดวงอุตสาหกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้เพิ่มโอกาสในการได้รับงาน” นายพดด้วง กล่าว
ดร.นรัตถ์ สาระมาน นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) กล่าวว่า ธุรกิจดิจิทัลเทคโนโลยี โทรคมนาคมและการสื่อสารในประเทศไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งงานด้าน Digital Transformation, Software as a Service, Cyber Security, Robotics และ AI หรือที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นกระแสของโลกที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งความร่วมมือกับ SAAM ในครั้งนี้ จะเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้า และรองรับการเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอนาคตอันใกล้นี้
นายพดด้วง กล่าวถึงธุรกิจเกม คาดมีรายได้เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาส 4/67 หลังจากเปิดให้เกมเมอร์ 300 คน ร่วมเทสเกม และแข่งขัน มั่นใจว่าผลดำเนินงานปีนี้ เติบโตจากรายได้เกมและธุรกิจใหม่ ซึ่งจะเป็นรายได้สัดส่วนที่มากขึ้นในอนาคต ทดแทนรายได้พลังงาน โดย SAAM ยังวางตัวเป็นโปรเจคดีเวลลอปเปอร์ด้านพลังงาน-ธุรกิจโทรคมนาคม